Thanks to angelfire.com for this property somnuklimkool@live.com |
มหัศจรรย์แดนมังกร |
1. วันแรกเราเริ่มต้นเมืองเฉิงตู บินแต่เช้าตรู่ ไปเมืองซีอาน ใช้เวลาบิน ประมาณ 3 ชั่วโมง คลิ๊กที่รูป เพื่อดูสวนหัวชิงฉือ บ่อน้ำร้อนของเมืองซีอานที่ มีประวัติเมื่อก่อน 3000 ปี |
2. เข้าชมสุสานจักรพรรดิ์ จิ๋นซีอ่องเต้ ซี่งขุดพบโดยบังเอิญ โดยจีนพื้นเมืองผู้นี้ เมื่อปี 2517 หลังจากถูกฝังมานาน กว่า 2000 ปี สุสานนี้ มีกองทหารดินเผาฝังล้อม เป็นเนื้อที่ยาวถึง 3 กิโลเมตรทีเดียว |
3. อาหารค่ำที่เมืองซีอาน ชมการ แสดงพื้นเมืองสมัยราชวงศ์ถัง ผสมร่วม ศิลปะใหม่ที่กลมกลืนอย่างน่าประทับใจ |
4. เช้าวันที่ 2 ชมเจดีย์ต้าเหยี่ยน ทางการเรียก ฉือเอินซื่อ เป็นเจดีย์ 10 ชั้น เป็นที่เก็บพระไตรปิฎก 657 เล่มที่พระถัง ซำจั๋ง (ภาษากลางเรียกชื่อไม่เหมือนกัน) อัญเชิญมาจากชมพูทวีป เป็นการนำเอา พระพุทธศาสนา (มหาญาน) สู่ประเทศจีน |
5. วันที่ 3 ไปถึงเมืองตุนหวง มณฑลกานสู ด้วยเครื่องบิน 2 ใบพัด เราเมากันทั่วหน้า ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง เช้าวันรุ่งขึ้น พาไปดูปราสาทสระน้ำเสี้ยวพระจันทร์ และภูเขาทรายหมิงซาซาน มีกระดาน ไถลลื่นให้เช่าเล่น ครั้งละ 10 หยวน มีอูฐให้เช่า ขี่ตัวละ 10 หยวนเหมือนกัน |
6. พวกเราได้ประสพการณ์เท่าชาว ทะเลทราย ในการขี่อูฐให้เจ้าของจูงให้ ตอนขึ้นกับตอนลงต้องเกร็งเอาหน่อย ก็มันกลัวตกนี่นา นอกนั้นก็นั่งสบายๆ |
7. เข้าชมสวนองุ่น ซึ่งเขาตั้งร้านขาย องุ่นสด องุ่นแห้ง ที่ใต้ค้างองุ่นนั่นเอง พวงองุ่น ห้อยระย้า ระหัวไปตลอดทาง รู้ก็ทั้งรู้ว่า เขาทำไว้ขายนักท่องเที่ยว จะเข้าไปชม ก็ต้องซื้อตั๋วก่อนคนละ 20 หยวน ทีนี้ จะซื้อ ไม่ซื้อก็ตามใจ |
8. บรรยากาศยามสายันต์กลาง ทะเลทรายโกบีที่ ก.ม. 64 ระหว่างทาง จะไปขึ้นรถไฟที่เมือง ลิ่วหยวน เวลา สามทุ่ม ก่อนพลบค่ำ มองรอบตัวเห็น แต่พื้นทรายกับทองฟ้า นกกาไม่มีให้ เห็นแม้แต่ตัวเดียว นี่แหละ silk road ละ |
9. ตกรถไฟ เปลี่ยนตั๋วใหม่ หาที่นอน กันอย่างทุลักทุเล เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ถึงเมือง ทูรูฟาน เมืองนี้มี Oasis จึงเป็นแหล่งที่ปลูกองุ่นกันทั้งเมือง เพราะอากาศดี น้ำดี ดินดี ประชากร ส่วนมากเป็นเชื้อสาย คาซักสถาน หน้าตาคล้ายแขกขาวมากกว่าพวกเรา |
10. ถ้ำเมาะเกา สร้างเมื่อ พ.ศ. 17 ที่เห็นอาคารนั้น ที่จริงเป็นถ้ำหินทราย ขุดแต่งเป็นห้อง มีประตูเรียงกัน คล้าย ห้อง มีทางเดินผ่านหน้าห้องโดยตลอด ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในมีพระ พุทธรูปแกะสลัก และรูปวาดพระพุทธ |
11. วันแรกเราเข้ามาเมือง อูรูมูจี๋ หลังจากเดินทางฝ่านทะเลทราย โดยทาง รถไฟ เดินทางต่อด้วยรถทัวร์ปรับอากาศ เมืองนี้มีทะเลสาบบนเขาสูงขนาดมีหิมะปกคลุม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยมาก |
12. บันทึกภาพ ท่ามกลางทะเลทราย ที่ผ่านไป ดูเมืองต่างๆ ที่แห้งแล้ง ประชาชนใช้อูฐเป็นยานพาหนะกัน อย่างธรรมดา พวกนี้มีโอกาศได้อาบ น้ำ น้อยมาก แต่เหงื่อไม่ออก ถึง ออกก็แห้งหมดทันที ตัวจึงไม่ เหนียวเหมือนบ้านเรา |
13. ดอกบัวหิมะ เป็นสมุนไพรที่ หายาก มีคุณสมบัติ เป็นยาเย็น ที่สามารถดับร้อนได้ทุกชนิต พบที่เมือง อูรูมูจี๋ ตามยอดเขา ที่มีหิมะปกคลุมโดยทั่วไป |
14. กลางทะเลทรายโกบีอันกว้างใหญ่ มีกระแสลมแรงตลอดปี ทางเนเธอแลนด์จึง มาช่วยติดตั้งกังหันปั่นไฟให้หลายพันตัว บางแห่งก็เป็นทะเลสาบที่มีระดับน้ำ ต่ำกว่า ระดับน้ำทะเล แบบ Dead Sea |
15. นั่งคอยเครื่องบินแต่เช้าตรู่ จนเย็นเพื่อกลับไปเมืองเฉินตู ใช้เวลาบิน ประมาณ 3 ชั่วโมง อยู่ว่างๆก็ถ่ายรูปเล่นเรื่อยไปเท่านั้นเอง |
16. วันที่จะต้องเดินทางย้อนกลับจาก อูรูมูจี๋ จึงแวะไปดูหลุมหลบภัยโบราณ ขนาดจุคนได้ถึง 5000 คน ปัจจุบันใช้เป็นตลาดขายของแบบคลองถมบ้านเรา มีการขาย VCD เถือน นาฬิกาเถื่อนเหมือนบ้านเรา |
17. วันแรกเราเริ่มต้นเมืองเฉิงตู ไปซีอาน วันนี้ก็กลับมาเฉินตูอีก เพื่อดู สิ่งที่ น่าสนใจอีกมากมาย ที่นี่เป็นเมืองในหมอกเกือบ ตลอดปี เป็นเมืองประวัติศาสตร์ ของสามก๊ก แต่ชื่อที่เรียกกัน เพี้ยนไปจากสามก๊กที่รารู้จัก มีสุสานของเล่าปี่ด้วย คนที่นี่นับถือ กวนอู มากกว่าเล่าปี่เสียอีก |
18. พระพุทธรูปโบราณใหญ่ที่สุด เคยเป็นที่ 2 รองจากองค์ที่ ทาลีบันในอัฟกานิสถานถล่มทิ้ง เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็นที่ 1 ไป มีอายุ ประมาณ 2000 กว่าปี สร้างโดยแกะสลัก จากภูเขาหินปูนทั้งลูกเลย |
https://www.angelfire.com/dc/somnuk/silkroad |