ความยุติธรรม ( ต่อ )
เราสามคน และพ่อบ้านรวมสี่คนอยู่ด้วยกันอย่างสงบดีอเล็คเป็นเด็กขยันและหัวดีมากเสียด้วย
เขาตื่นแต่เช้าแค่ตีห้าครึ่งและแย่งงานซักผ้าทำกับข้าวของพ่อบ้านไปเสียหมด
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าฉันต้องเปลี่ยนมาทานอาหารเช้าเป็นไข่ดาว ขนมปังและกาแฟนับแต่นั้น
ก็น้องชายของฉันทำอาหารไทยเป็นซะที่ไหนล่ะ ก่อนเปิดเรียน 1 อาทิตย์ เขาก็อ่านตำราทั้งหมดจบแล้ว
ที่ฉันชอบใจมากคือการเป็นคนอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่องของเขา ส่วนโซเฟียออกจะเป็นเด็กขี้กลัวอยู่ซักหน่อย
แต่เธอเรียนรู้อะไรได้เร็วมาก พูดภาษาไทยได้มากขึ้นจนน่าตกใจ เรียนทำกับข้าวกับพ่อบ้านก็เรียนได้ดีจนจะเป็นศิษย์ล้างครูอยู่แล้ว
กิจวัตรประจำวันของพวกเราคือตื่นแต่เช้า ทานข้าวพร้อมหน้ากัน 4 คน พ่อบ้านขับรถพาน้องไปส่งที่โรงเรียน
ฉันก็ขับรถไปทำงานที่สำนักงาน ตอนเย็นพวกเขาชอบที่จะกลับบ้านเองแต่ก็มีบางวันที่ฉันแอบไปรอรับพวกเขาบ้าง
ซึ่งก็นานๆครั้งล่ะนะ ตอนเย็นเรา 4 คนไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกันเกือบทุกวัน อเล็คกับโซเฟียชอบมาก พวกเขาวิ่งเล่นกัน
หัวเราะบ้าง ยิ้มบ้าง ล้มลุกคลุกคลาน พวกเขาไม่ใช่ตุ๊กตาแก้วที่แตกหักง่ายหรอก ฉันหวังให้ความสุขเช่นนี้คงอยู่นานเท่านาน
..............................
.วันนี้ฉันเลิกงานเร็วเพราะไม่มีคดีเข้ามาเลยตลอดวัน จึงไปรอพวกเขาที่โรงเรียน
และเพราะโดนบ่นหลายครั้งว่าทำเหมือนพวกเขาเป็นเด็กจึงต้องนั่งรออยู่หน้าโรงเรียน รถคันงามก็ต้องจอดไว้ข้างถนน
ท่าทางสองคนนั่นจะอายไม่เข้าเรื่องเลย เสียงกริ่งดังและนักเรียนก็ทยอยกันเดินออกจากโรงเรียน
มีพ่อแม่ที่เอารถมารับลูกหลายคันแต่ฉันไม่ได้สนใจนัก แต่ที่รู้สึกไม่ดีก็เพราะมีรถที่ติดฟิลม์สีดำสนิททั้งคันอยู่วิ่งออกมาอย่างเร็ว
ไม่กลัวว่าจะไปชนเด็กเข้าด้วยซ้ำ แย่จริงๆ ขณะที่กำลังกร่นด่ากับตนเองน้องสาวของฉันก็วิ่งกระหืดกระหอบออกมาหน้าโรงเรียน
ก่อนที่จะได้ทักทายเธอก็ตรงเข้ามาหาฉัน
" ช่วยด้วย พวกนั้นเอาอเล็คไปแล้ว พวกนั้นตามมาแล้ว! " เนื้อตัวของโซเฟียมีเหงื่อซึมออกมาอย่างรวดเร็ว
เสียงของเธอสั่น
และร้องไห้ออกมาอย่างที่เจ้าตัวเองก็คงไม่ได้ตั้งใจ
" เดี๋ยวสิ พวกไหน
เธอจะให้พี่ช่วยอะไร ใครเอาอเล็คไป" ฉันมีแต่คำถามเต็มไปหมด
แต่ไม่ทันที่โซเฟียจะตอบเธอก็ล้มลงไป
น้องสาวของฉันตกใจกับอะไรบางอย่าง หวาดกลัวและเป็นลม
ฉันนั่งรอการตรวจอยู่หน้าห้องพยาบาล พยาบาลที่เดินไปเดินมา คนไข้ที่เดินกันขวักไขว่
เสียงรถเข็น
ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะน้องสาวของฉันอยู่ในห้องตรวจนั่น และน้องชายของฉันถูกใครก็ไม่รู้เอาตัวไป
แน่นอนว่าแจ้งตำรวจไม่ได้เพราะยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง แต่ฉันสังหรณ์ใจ เรื่องไม่ดี เหมือนกับตอนนั้น .ตอนที่ฉันเสียคุณพ่อไป
" น้องสาวผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ " แพทย์เดินออกมาหน้าห้องพร้อมกับพยาบาลที่เข็นน้องสาวของฉันออกมา
" คุณไม่ควรให้เธอออกกำลังมากนะครับ หัวใจเธอไม่ดี ถ้าตกใจอะไรมากๆอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
แต่ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้วล่ะครับ แต่อยากจะขอดูอาการอีกซักคืนนึง " เสียงของหมอเหมือนจะลอยผ่านหูของฉันไป
" หัวใจ
..เธอเป็นโรคหัวใจรึครับ " ฉันรู้
ตอนนี้เป็นเสียงของฉันที่สั่น
" ครับ ถ้าจะรักษาจริงๆก็ต้องผ่าตัดใหญ่ นี่คุณไม่ทราบเลยรึครับ "
ฉันได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ นี่คงเป็นสาเหตุที่อเล็คดูแลเธออย่างดี แต่พวกเขาไม่เคยบอกฉันเลย อาการของโซเฟีย
ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย .เรื่องของอเล็คล่ะ ยังมีเรื่องของเขาที่ฉันไม่รู้ พวกไหนที่เอาตัวเขาไป
คืนนั้นพ่อบ้านมาเฝ้าโซเฟียที่โรงพยาบาล ส่วนฉันนั่งอยู่หน้าบ้านรออเล็ค ฉันรออยู่ตลอดคืน
เสียงจิ้งหรีดในสวนฟังดูโหยหวนอย่างประหลาด เราสี่คนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมากว่า 2 เดือน
จนฉันไม่ชินกับความเหงาอีกต่อไป ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้ ฉันกลัว นี่ควรจะเป็นเวลาที่เราจะทานอาหารเย็นด้วยกัน
ดึกหน่อยก็ดูละครบ้าง เล่าเรื่องโรงเรียน เรื่องงานกันบ้าง มันสนุก สนุกมาก คุณพ่อ คุณพ่อส่งน้องชายน้องสาว ส่งครอบครัวมาให้
แต่ท่านก็อาจจะกำลังนำพวกเขาไป คุ้มครองโซเฟียด้วย เพื่อเธอ ฉันจะทุ่มเงินทองทั้งหมดรักษา ไม่ว่าใครจะว่ายังไงก็ตาม
ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง .
............................
" อเล็ค! " ฉันร้องออกมา ร่างเล็กๆนั่นเดินโซเซเข้ามาทางประตูหน้าบ้านที่ฉันเปิดทิ้งไว้
ฉันเอื้อมมือไปเปิดไฟ
ฉันกลัว..อะไรที่ทำให้ฉันกลัวกันนะ
"
.พี่
" อเล็คไม่เดินเข้ามาหาฉันที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เขาล้มลงก่อนที่จะเดินเข้ามาถึงตัวบ้านเสียอีก
ฉันประคองเขาขึ้น
หน้าตาของเขาซีดเซียวมากเหมือนกับไม่มีเลือดอยู่เลย มือเย็นเฉียบ
และดวงตาทั้งสองของเขาก็แดงก่ำ เขาร้องไห้ ร้องมาตลอดทาง ถึงแม้ดวงตาจะลืมโพลง
แต่เขาไม่ได้มองหน้าฉัน ไม่ได้มองอะไรทั้งนั้น
เสื้อของอเล็คมีเลือดติดมาด้วย เป็นเลือดที่ซึมออกมาจากตัวเขาเอง เนื้อตัวของเขามีรอยมีดกรีดเล็กๆอยู่เต็มไปหมด
น่ากลัว ..ฉันจะถามเขาได้อย่างไร .เก้าอี้ตัวเดิม เก้าอี้ตัวที่ฉันนั่งรอฟังอาการของโซเฟีย
ตอนนี้..ในเวลาที่ต่างกัน แต่ฉันก็นั่งอยู่ด้วยความรู้สึกเช่นเดิม ..แต่คราวนี้เป็นคุณหมอที่เรียกฉันเข้าไปพูดในห้อง .
เช้าวันรุ่งขึ้นฉันไม่ได้ไปทำงาน แต่โทรศัพท์ให้ลูกน้องช่วยสืบบางเรื่อง โซเฟียหมอให้ยานอนหลับเพื่อจะได้พักผ่อนให้มากขึ้น
ส่วนอเล็ค ฉันได้รับอนุญาตให้เข้าไปหาเขาได้ อเล็คตื่นแล้ว แต่เขาไม่ได้แตะต้องอาหารเช้าที่โรงพยาบาลจัดให้
หมอบอกว่าเขาไม่ยอมพูดกับพยาบาลคนไหนเลย
" อรุณสวัสดิ์ " ฉันทักพร้อมๆกับเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆเตียง
" โซเฟีย เป็นยังไงบ้าง " เสียงของอเล็คแหบกว่าทุกครั้ง
" ต้องผ่าตัด แต่ไม่ต้องห่วง "
" ผมรู้
ถ้าขนาดต้องผ่าตัดคงไม่ต้องห่วงไม่ได้
..มีเรื่องอยากถามใช่ไหม
พี่ชาย
" เขาพยายามจะพยุงตนเองนั่ง แต่ไม่สำเร็จ
" เธอปิดบังเรื่องอาการของโซเฟีย "