Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!

เรื่องบ้าๆ


คำเตือน เรื่องนี้เป็นเรื่องบ้าๆ ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ผิดในทุกสิ่งที่ควรจะผิด ไม่เหมาะสมทั้งบุคคล เวลา โอกาส สถานที่ ไม่มีอะไรที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง ไม่มีอะไรที่ควรเก็บเอาไปคิด เป็นเพียงเรื่องบ้าๆเท่านั้น


" เราจะลืมทุกเรื่องที่เกิดขึ้นนะคะ "


" ทุกเรื่องที่รัก เรื่องบ้าๆทุกเรื่อง "


ผมตื่นขึ้น ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นเวลาเช้า ใช่ อย่างน้อยผมก็คิดเช่นนั้น นั่นคือ ผู้หญิง กับ ผู้ชาย คู่หนึ่ง พวกเขานั่งอยู่ข้างๆเตียง ข้างๆผม

ผมรู้สึกคุ้นหน้าพวกเขา มากทีเดียว


" อรุณสวัสดิ์จ้ะ " ฝ่ายหญิงพูดกับผมก่อน ผมได้แต่พยักหน้ารับ เพียงเท่านั้นเธอก็รวบตัวผมไว้ในอ้อมแขน มันอ่อนโยนนะ อบอุ่นมาก

แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ผมก็เริ่มรู้สึกชอบเธอขึ้นมาเสียแล้ว

 


" หมดห่วงเสียที ริน " เขาพูด พลางส่งยิ้มน้อยๆที่มุมปากมาให้ ผมรู้สึกว่าเขาอ่อนโยนนะ แต่เขาทำให้คนที่กอดผมอยู่ร้องไห้

น้ำตาของเธอหยดลงบนหัวผมด้วยล่ะ ฝ่ายชายพยายามจะเข้ามาโอบผมบ้าง แต่ผมก็ผละตัวออกทันที มันแปลกนี่นา พวกเขาเป็นใคร

ผมยังไม่รู้เลย


" มีอะไรรึลูก หรือว่ายังโกรธพ่อกับแม่อยู่ " เสียงของเธอเศร้าจัง ผมไม่ชอบเลย


" คะ......" ดูเหมือนเสียงผมจะค่อยๆเปล่งออกมาได้" ใคร...ใครคือ..ลูกของพวกคุณ ผมงั้นรึ "


แล้ว...ผมล่ะเป็นใคร

 

" ริน เอ้า รีบๆกินเข้า " คุณพ่อพูดกับผมตามปกติ นี่พึ่งจะหกโมงครึ่งเท่านั้นเอง ไม่ต้องรีบหรอกน่า


" วันนี้คุณแม่กลับดึกรึครับ " คุณแม่ที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงกันข้ามส่งยิ้มน่ารัก เป็นอันว่าใช่ล่ะ


" พ่อมีประชุมเหมือนกัน แม่กับรินนอนกันไปก่อนได้เลยนะ พ่อจะเอากุญแจสำรองไปด้วย จะได้ไม่ต้องลุกมาเปิดประตู "


" งั้นผมต้องอยู่คนเดียวถึงกี่ทุ่มครับ "


" แม่จะกลับสัก 2 ทุ่มเองจ้ะ พอสอนเสร็จจะรับกลับเลยนะ อยากทานอะไรมั้ยริน "


" ไม่ครับ ...."


แล้วคุณพ่อก็มาส่งผมที่โรงเรียนตามปกติ ก่อนที่จะไปส่งคุณแม่ที่โรงเรียนและไปทำงานที่บริษัทต่อ

ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็กๆครับ พ่อ แม่ ลูก ดูเหมือนผมจะเป็นลูกของพวกท่านจริงๆล่ะนะ

มีรูปครอบครัวตั้งแต่ผมเกิดจนถึงประถม6 ในปัจจุบัน แต่ผมเกิดอุบัติเหตุเลยความจำเสื่อม เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละ เพิ่งเกิดมา 10

ปีเองนี่นา จะมีเรื่องอะไรให้จำนักหนา


" ริน ทำการบ้านเลขเสร็จรึยัง " มีนา ถามผม เธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมตอนนี้ ให้ผมย้าย


โรงเรียน .......คุณแม่บอก จะได้เริ่มต้นใหม่ ......คุณพ่อ เห็นด้วย


" ถ้าแค่เสร็จนะ "


" ขอลอกหน่อยน่า "


" ถ้าไม่กลัวผิดนะ " มีนาเอาการบ้านผมไปลอก และรู้สึกว่าจะต่อไปอีกหลายคน การเป็นต้นฉบับการบ้านนี่ จะว่าภูมิใจก็ไม่ใช่

น่ารำคาญก็ไม่เชิง .........แต่มันก็ผิดเสีย 3 ใน 4 ล่ะนะ ก็บอกแล้วว่ามันแค่เสร็จ เพราะทุกคนผิดเหมือนๆกัน

ครูก็รู้น่ะสิ..........โดนตีตามระเบียบ


" เธอนี่แย่จริงๆ ทำไมมันผิดขนาดนี้ล่ะ " มีนาดุ


" ใช่ ถ้านายทำถูกหมดครูก็ไม่รู้แล้ว " วีระ เอาอีกคน


" ดันโง่ลอกเองทำไม เตือนแล้วนะ " ผมยัวะก็เลยโต้กลับไปบ้าง ....ผลก็คือพวกนั้นงอนไปตามระเบียบ

จะเอาอะไรกันมากมายรำคาญจัง

ถึงชั่วโมงโปรดแล้ว ชั่วโมงนี้ก็มีการบ้านนะ แต่ลอกไม่ได้


" วรินทร์ "

 

" ครับ "
" คราวที่แล้วมีเธอกับ วีระ ที่เลือกหัวข้อสุนทรพจน์ต่างจากคนอื่น ครูจะให้เธอพูดก่อนนะ


พร้อมรึยัง "


" ครับ " ผมเดินออกไปยืนหน้าห้อง ใจเต้นตึกตัก มันน่าตื่นเต้นนะ แต่สนุก ตอนที่เปล่งเสียงและบอกหัวข้อนี่ยอดเยี่ยมที่สุดเลย


" ผมจะมากล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ " ทำไมคนถึงอยากเป็นนายกรัฐมนตรี " ครับ "


ผมรู้นะว่าทุกคนตกใจกับสิ่งที่ผมพูด ไม่เห็นน่าตกใจเลย ความจริงทั้งนั้น ก็แค่ปากพาไป

ผมได้ยินครูประจำชั้นห้อง2ที่เดินผ่านมาพูดกับครูสมศรี เธอบอกว่าผมเก่ง เพิ่งอายุเท่านี้แต่พูดได้ขนาดนี้ ขนาดไหนผมไม่รู้หรอก

แต่ผมคิดว่าเรื่องที่วีระพูด ในหัวข้อเดียวกับผมนี่ไร้สาระสิ้นดีเลย มันตรงกับหัวข้อตรงไหน มันน่าสนใจยังไง ไม่มีรสชาติเลย

ตาของผมมองเขาอย่างสนใจ แต่ผมกำลังหาวอยู่นะ แม้จะรักษามารยาทหาวในใจก็เถอะ

ผมมั่นใจทีเดียวว่าคะแนนของผมไม่เต็มก็เกือบเต็ม สะใจจริงๆ


ตอนนี้โลกสุขสันต์จริงๆ บางทีความจำก็ไม่จำเป็นเสมอไปนะ ในสารคดีบอกว่าคนความจำเสื่อมจะมีความเครียดสูงกว่าคนปกติ

ผมว่าไม่นะ สบายดี


" สวัสดีจ้ะ หนุ่มน้อย " พี่สาวข้างๆประตูทักขณะผมเดินออกจากโรงเรียน


" สวัสดีครับ " แน่นอนว่าผมทักทาย จะว่าไปเรียกว่าน้าดีกว่าแฮะ อายุซัก 25-26 มั้ง


" ท่าทางสบายดีแล้วนี่ ไปคุยกันหน่อยมั้ย "


" ไม่ดีกว่าครับ ผมกำลังรีบ "


" ไม่มีใครคอยเธออยู่ร้านหนังสือหรอกนะ "


น้าคนนี้พูดแปลกๆ เธอพูดอะไรน่ะ


" ใครจะคอยผมอยู่เหรอ คุณมีธุระอะไรกันแน่ มาล้อเล่นกับเด็กแบบนี้ พวกหลอกเด็กรึไง " ผมพยายามพูดให้เสียงดังขึ้น

คนอื่นๆเริ่มหันมาดูบ้างแล้ว แต่เธอกลับหัวเราะ


" ฉันน่ะไม่ใช่พวกหลอกเด็กแน่ๆ อีกอย่าง....อย่างเธอนี่เขาไม่เรียกว่าเด็กแล้วล่ะ ดูท่าเรื่องที่เธอความจำเสื่อมจะเป็นเรื่องจริงสินะ

เด็กหัวแข็งอย่างเธอก็มีคราวเสียท่าเหมือนกัน "


" คนอย่างคุณนี่ท่าจะประสาท ว่างมากสินะครับ ถึงผมจะความจำเสื่อมรึไม่ มันธุระกงการอะไรของคุณ " ผมฉุนจริงๆนะ อะไรกันเนี่ย


" ดูท่าจะหายไปเฉพาะแค่ความจำ ไอ้ฉันก็ดูละครมากเกินไปหน่อย นึกว่านิสัยจะเปลี่ยนไปด้วยซะอีก เอาเถอะ

ถ้าคนอย่างเธอว่าง่ายก็หมดสนุกน่ะสิ ว่าแต่...เธอไม่อยากเรียกความจำกลับมาเรอะ" เอาล่ะสิ

เธอพูดเรื่องที่ผมไม่อยากฟังมากที่สุดซะแล้ว ใครจะไม่อยากรู้ถ้ามีโอกาส แต่นี่เป็นคนแปลกหน้านะ ถ้าหลงเชื่อแล้วถูกจับไปขาย หรือ

เรียกค่าไถ่ ก็ไม่ค่อยดีนักหรอก บ้าจริงๆ


" ข้องใจว่าจะเชื่อฉันได้รึเปล่าสินะ เอางี้ ดูนี่สิ " เธอหยิบรูปถ่าย 3-4ใบออกจากการเป๋าถือ

ยื่นให้ผม......มันเป็นรูปผม....กับ...ผู้ชาย.....ที่.....ผม....ไม่...รู้....จัก ...นี่ผมไม่รู้จักเขาใช่ไหม


" ฉันให้ ยังไงเธอก็คงหารูปผู้ชายคนนี้ที่บ้านเธอไม่เจออยู่ดี "


" ทำไมล่ะ ถ้าผมรู้จักเขาก็ต้องมีรูปเขาสิ "


" เคยมี ....แต่พอเธอจำอะไรไม่ได้ มันก็คงถูกทำลายไปแล้ว พ่อแม่เธอเขาคงต้องการฝังกลบเรื่องบ้าๆน่ะสิ "


" คุณรู้ได้ยังไง "


" ก็มันเป็นงานของฉันน่ะสิ เรื่องขุดคุ้ยเรื่องชาวบ้าน ถ้าไม่เชื่อกลับไปค้นที่บ้านสิ คืนนี้พ่อแม่เธอกลับดึกไม่ใช่เรอะ แล้วเธอจะเชื่อฉัน

แล้วพอสบโอกาสฉันจะมาพบเธออีก วรินทร์ "

กลับหน้าแรก

ไปหน้าต่อไป