เรื่องบ้าๆ
คำเตือน เรื่องนี้เป็นเรื่องบ้าๆ ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย
ผิดในทุกสิ่งที่ควรจะผิด ไม่เหมาะสมทั้งบุคคล เวลา โอกาส สถานที่ ไม่มีอะไรที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง
ไม่มีอะไรที่ควรเก็บเอาไปคิด เป็นเพียงเรื่องบ้าๆเท่านั้น
" เราจะลืมทุกเรื่องที่เกิดขึ้นนะคะ "
" ทุกเรื่องที่รัก เรื่องบ้าๆทุกเรื่อง "
ผมตื่นขึ้น ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นเวลาเช้า ใช่ อย่างน้อยผมก็คิดเช่นนั้น นั่นคือ
ผู้หญิง กับ ผู้ชาย คู่หนึ่ง พวกเขานั่งอยู่ข้างๆเตียง ข้างๆผม
ผมรู้สึกคุ้นหน้าพวกเขา มากทีเดียว
" อรุณสวัสดิ์จ้ะ " ฝ่ายหญิงพูดกับผมก่อน ผมได้แต่พยักหน้ารับ เพียงเท่านั้นเธอก็รวบตัวผมไว้ในอ้อมแขน
มันอ่อนโยนนะ อบอุ่นมาก
แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ผมก็เริ่มรู้สึกชอบเธอขึ้นมาเสียแล้ว
" หมดห่วงเสียที ริน " เขาพูด พลางส่งยิ้มน้อยๆที่มุมปากมาให้ ผมรู้สึกว่าเขาอ่อนโยนนะ
แต่เขาทำให้คนที่กอดผมอยู่ร้องไห้
น้ำตาของเธอหยดลงบนหัวผมด้วยล่ะ ฝ่ายชายพยายามจะเข้ามาโอบผมบ้าง แต่ผมก็ผละตัวออกทันที มันแปลกนี่นา พวกเขาเป็นใคร
ผมยังไม่รู้เลย
" มีอะไรรึลูก หรือว่ายังโกรธพ่อกับแม่อยู่ " เสียงของเธอเศร้าจัง
ผมไม่ชอบเลย
" คะ......" ดูเหมือนเสียงผมจะค่อยๆเปล่งออกมาได้" ใคร...ใครคือ..ลูกของพวกคุณ
ผมงั้นรึ "
แล้ว...ผมล่ะเป็นใคร
" ริน เอ้า รีบๆกินเข้า " คุณพ่อพูดกับผมตามปกติ นี่พึ่งจะหกโมงครึ่งเท่านั้นเอง ไม่ต้องรีบหรอกน่า
" วันนี้คุณแม่กลับดึกรึครับ " คุณแม่ที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงกันข้ามส่งยิ้มน่ารัก
เป็นอันว่าใช่ล่ะ
" พ่อมีประชุมเหมือนกัน แม่กับรินนอนกันไปก่อนได้เลยนะ พ่อจะเอากุญแจสำรองไปด้วย
จะได้ไม่ต้องลุกมาเปิดประตู "
" งั้นผมต้องอยู่คนเดียวถึงกี่ทุ่มครับ "
" แม่จะกลับสัก 2 ทุ่มเองจ้ะ พอสอนเสร็จจะรับกลับเลยนะ อยากทานอะไรมั้ยริน
"
" ไม่ครับ ...."
แล้วคุณพ่อก็มาส่งผมที่โรงเรียนตามปกติ ก่อนที่จะไปส่งคุณแม่ที่โรงเรียนและไปทำงานที่บริษัทต่อ
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็กๆครับ พ่อ แม่ ลูก ดูเหมือนผมจะเป็นลูกของพวกท่านจริงๆล่ะนะ
มีรูปครอบครัวตั้งแต่ผมเกิดจนถึงประถม6 ในปัจจุบัน แต่ผมเกิดอุบัติเหตุเลยความจำเสื่อม เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละ เพิ่งเกิดมา 10
ปีเองนี่นา จะมีเรื่องอะไรให้จำนักหนา
" ริน ทำการบ้านเลขเสร็จรึยัง " มีนา ถามผม เธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมตอนนี้
ให้ผมย้าย
โรงเรียน .......คุณแม่บอก จะได้เริ่มต้นใหม่ ......คุณพ่อ เห็นด้วย
" ถ้าแค่เสร็จนะ "
" ขอลอกหน่อยน่า "
" ถ้าไม่กลัวผิดนะ " มีนาเอาการบ้านผมไปลอก และรู้สึกว่าจะต่อไปอีกหลายคน
การเป็นต้นฉบับการบ้านนี่ จะว่าภูมิใจก็ไม่ใช่
น่ารำคาญก็ไม่เชิง .........แต่มันก็ผิดเสีย 3 ใน 4 ล่ะนะ ก็บอกแล้วว่ามันแค่เสร็จ เพราะทุกคนผิดเหมือนๆกัน
ครูก็รู้น่ะสิ..........โดนตีตามระเบียบ
" เธอนี่แย่จริงๆ ทำไมมันผิดขนาดนี้ล่ะ " มีนาดุ
" ใช่ ถ้านายทำถูกหมดครูก็ไม่รู้แล้ว " วีระ เอาอีกคน
" ดันโง่ลอกเองทำไม เตือนแล้วนะ " ผมยัวะก็เลยโต้กลับไปบ้าง ....ผลก็คือพวกนั้นงอนไปตามระเบียบ
จะเอาอะไรกันมากมายรำคาญจัง
ถึงชั่วโมงโปรดแล้ว ชั่วโมงนี้ก็มีการบ้านนะ แต่ลอกไม่ได้
" วรินทร์ "
" ครับ "
" คราวที่แล้วมีเธอกับ วีระ ที่เลือกหัวข้อสุนทรพจน์ต่างจากคนอื่น ครูจะให้เธอพูดก่อนนะ
พร้อมรึยัง "
" ครับ " ผมเดินออกไปยืนหน้าห้อง ใจเต้นตึกตัก มันน่าตื่นเต้นนะ แต่สนุก
ตอนที่เปล่งเสียงและบอกหัวข้อนี่ยอดเยี่ยมที่สุดเลย
" ผมจะมากล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ " ทำไมคนถึงอยากเป็นนายกรัฐมนตรี "
ครับ "
ผมรู้นะว่าทุกคนตกใจกับสิ่งที่ผมพูด ไม่เห็นน่าตกใจเลย ความจริงทั้งนั้น ก็แค่ปากพาไป
ผมได้ยินครูประจำชั้นห้อง2ที่เดินผ่านมาพูดกับครูสมศรี เธอบอกว่าผมเก่ง เพิ่งอายุเท่านี้แต่พูดได้ขนาดนี้ ขนาดไหนผมไม่รู้หรอก
แต่ผมคิดว่าเรื่องที่วีระพูด ในหัวข้อเดียวกับผมนี่ไร้สาระสิ้นดีเลย มันตรงกับหัวข้อตรงไหน มันน่าสนใจยังไง ไม่มีรสชาติเลย
ตาของผมมองเขาอย่างสนใจ แต่ผมกำลังหาวอยู่นะ แม้จะรักษามารยาทหาวในใจก็เถอะ
ผมมั่นใจทีเดียวว่าคะแนนของผมไม่เต็มก็เกือบเต็ม สะใจจริงๆ
ตอนนี้โลกสุขสันต์จริงๆ บางทีความจำก็ไม่จำเป็นเสมอไปนะ ในสารคดีบอกว่าคนความจำเสื่อมจะมีความเครียดสูงกว่าคนปกติ
ผมว่าไม่นะ สบายดี
" สวัสดีจ้ะ หนุ่มน้อย " พี่สาวข้างๆประตูทักขณะผมเดินออกจากโรงเรียน
" สวัสดีครับ " แน่นอนว่าผมทักทาย จะว่าไปเรียกว่าน้าดีกว่าแฮะ อายุซัก
25-26 มั้ง
" ท่าทางสบายดีแล้วนี่ ไปคุยกันหน่อยมั้ย "
" ไม่ดีกว่าครับ ผมกำลังรีบ "
" ไม่มีใครคอยเธออยู่ร้านหนังสือหรอกนะ "
น้าคนนี้พูดแปลกๆ เธอพูดอะไรน่ะ
" ใครจะคอยผมอยู่เหรอ คุณมีธุระอะไรกันแน่ มาล้อเล่นกับเด็กแบบนี้ พวกหลอกเด็กรึไง
" ผมพยายามพูดให้เสียงดังขึ้น
คนอื่นๆเริ่มหันมาดูบ้างแล้ว แต่เธอกลับหัวเราะ
" ฉันน่ะไม่ใช่พวกหลอกเด็กแน่ๆ อีกอย่าง....อย่างเธอนี่เขาไม่เรียกว่าเด็กแล้วล่ะ
ดูท่าเรื่องที่เธอความจำเสื่อมจะเป็นเรื่องจริงสินะ
เด็กหัวแข็งอย่างเธอก็มีคราวเสียท่าเหมือนกัน "
" คนอย่างคุณนี่ท่าจะประสาท ว่างมากสินะครับ ถึงผมจะความจำเสื่อมรึไม่ มันธุระกงการอะไรของคุณ
" ผมฉุนจริงๆนะ อะไรกันเนี่ย
" ดูท่าจะหายไปเฉพาะแค่ความจำ ไอ้ฉันก็ดูละครมากเกินไปหน่อย นึกว่านิสัยจะเปลี่ยนไปด้วยซะอีก
เอาเถอะ
ถ้าคนอย่างเธอว่าง่ายก็หมดสนุกน่ะสิ ว่าแต่...เธอไม่อยากเรียกความจำกลับมาเรอะ" เอาล่ะสิ
เธอพูดเรื่องที่ผมไม่อยากฟังมากที่สุดซะแล้ว ใครจะไม่อยากรู้ถ้ามีโอกาส แต่นี่เป็นคนแปลกหน้านะ ถ้าหลงเชื่อแล้วถูกจับไปขาย หรือ
เรียกค่าไถ่ ก็ไม่ค่อยดีนักหรอก บ้าจริงๆ
" ข้องใจว่าจะเชื่อฉันได้รึเปล่าสินะ เอางี้ ดูนี่สิ " เธอหยิบรูปถ่าย
3-4ใบออกจากการเป๋าถือ
ยื่นให้ผม......มันเป็นรูปผม....กับ...ผู้ชาย.....ที่.....ผม....ไม่...รู้....จัก ...นี่ผมไม่รู้จักเขาใช่ไหม
" ฉันให้ ยังไงเธอก็คงหารูปผู้ชายคนนี้ที่บ้านเธอไม่เจออยู่ดี "
" ทำไมล่ะ ถ้าผมรู้จักเขาก็ต้องมีรูปเขาสิ "
" เคยมี ....แต่พอเธอจำอะไรไม่ได้ มันก็คงถูกทำลายไปแล้ว พ่อแม่เธอเขาคงต้องการฝังกลบเรื่องบ้าๆน่ะสิ
"
" คุณรู้ได้ยังไง "
" ก็มันเป็นงานของฉันน่ะสิ เรื่องขุดคุ้ยเรื่องชาวบ้าน ถ้าไม่เชื่อกลับไปค้นที่บ้านสิ
คืนนี้พ่อแม่เธอกลับดึกไม่ใช่เรอะ แล้วเธอจะเชื่อฉัน
แล้วพอสบโอกาสฉันจะมาพบเธออีก วรินทร์ "