Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!

 

ลำนำบทที่ 4 ค่ำคืนก่อน


กษัตริย์ไทฟุเข้ามาตั้งค่ายที่ชายแดนของเรียวโฮได้ครบ 2 วันพอดี ขณะนี้มีการปะทะกันระหว่างกองทัพของกษัตริย์ทั้งสองเล็กน้อย

ทั้งสองฝ่ายต่างก็อดใจรอเวลา การดูเชิงของกษัตริย์ชินบุและกษัตริย์ไทฟุเต็มไปด้วยความตึงเครียด

ทว่า..สำหรับกษัตริย์ที่อยู่ในสภาวะกดดันที่สุดนั้น ดังเช่นกษัตริย์ชินบุเต็มไปด้วยอารมณ์แค้นที่คุกกรุ่น

เจ้าชายทาคาสึระได้ทรงทำในสิ่งที่เป็นผลร้ายที่สุดต่อทหารของเกได

การติดต่อกษัตริย์ไทฟุเป็นผลสำเร็จจะทำให้ชาวเมืองกระด้างกระเดื่องต่อกองทหารของพระองค์

ความวุ่นวายและการต่อต้านรุนแรงขึ้นทุกขณะที่กองทัพของโฮซึมะเคลื่อนเข้าใกล้

ภาวะการณ์เช่นนี้ย่อมส่งผลร้ายต่อพระองค์อย่างแน่นอน อีกคนที่สมควรจะต้องรับโทษครั้งนี้อย่างที่สุด เด็กน้อยที่บังอาจลูบคมกษัตริย์

" ร้ายนักนะ " กษัตริย์ชินบุตวาดเสียงดังใส่หน้าเจ้าชายทัตสึมะขณะที่กดร่างของเจ้าชายลงกับพื้น


" ไม่เข้าใจที่ทรงตรัส " เจ้าชายตอบ


" พี่เจ้าไปโฮซึมะ กล้าดียังไงถึงโกหกข้าว่าไปอาสึมะ "


" ข้าไม่ได้ตอบว่าท่านพี่เสด็จไปที่ใด แต่ท่านทรงเชื่อเอง…. " ไม่ทันตรัสจบ

กษัตริย์ชินบุฟาดฝ่ามือลงบนพระพักตร์ซีกซ้ายของเจ้าชายอย่างแรง

" แน่มากที่ต่อปากต่อคำกับข้า รู้สถานะของตัวเองซะบ้างถ้าเกิดสงครามเจ้าเป็นตัวประกันของข้า ถ้าข้าจะฆ่าเจ้าซะตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ตัดหัวเจ้าเสียบประจาน ไม่สิ..ห่อส่งไปเป็นของขวัญให้พี่เจ้าดีกว่า ว่าไง…อยากตายสภาพไหนดีล่ะ "

คราวนี้ทรงแสยะยิ้มขึ้นเลือดเย็น เจ้าชายทัตสึมะทรงรู้สึกรังเกียจ ขยะแขยง และหวาดกลัวขึ้นในเวลาเดียวกัน

ผู้ชายคนนี้คงจะเอาจริงแน่ และเขาก็อาจจะต้องตายจริงๆ ทั้งที่…อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น จะได้พบท่านพี่

" …………….. "

" ตอบสิ นิ่งเงียบทำไมเล่า " กษัตริย์โน้มพระวรกายลง ทรงเลียใบหูและพระพักตร์ของเจ้าชายทัตสึมะ

" หยุดนะ!…" เจ้าชายน้อยทรงร้องขึ้น

" นึกว่าใบ้กินซะแล้ว ….. นึกอะไรดีๆได้แล้ว….เจ้าก็รู้ใช่มั้ยว่ามันมีเรื่องที่แย่ยิ่งกว่าการตาย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เจ้าชายนั่นคงแทบบ้าแน่ …คิดออกมั้ยว่าอะไร "

เจ้าชายทัตสึมะทรงจำความรู้สึกนี้ได้ดีทีเดียว ริมฝีปากที่โน้มลงมาฉีกกัดพระองค์ ร่างกายที่กดทับลงมา อึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก

ตรงข้ามกับความรู้สึกรังเกียจ ประสาทสัมผัสทั่วร่างกลับร้อนขึ้น เสียงหัวใจเต้นถี่รัว สมองไม่ได้รับรู้เรื่องใดๆอีกแล้ว……..

" คิดออกรึยัง " กษัตริย์ตรัสถาม


" …….กรุณาหยุดเถอะ "


" ขอร้องข้าเป็นเหมือนกันรึ เด็กอวดดีแบบเจ้าจะมาขอความเห็นใจอะไร ดูดีๆเจ้าก็สวยทีเดียว คนตระกูลคาเอเดะเจ้ารับเชื้อสายมาเต็มๆเลยนี่ " ว่าพลางทรงใช้ฝ่าพระหัตถ์ลูบไล้เส้นผมของเจ้าชายน้อย

" มันไม่เหมะสม ท่านเป็นกษัตริย์ไม่ใช่รึ "

" เจ้าเป็นเชลยศึกของข้าในตอนนี้ ข้าจะทำอะไรกับเจ้า..มีสิทธิบ่นด้วยเรอะนี่เป็นเรื่องธรรมดาข้าเป็นกษัตริย์และเชลยของข้าก็เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ถ้าข้าปล่อยเจ้าให้รอดไปหาพี่ชายเจ้าเล่ห์ของเจ้าได้ นั่นล่ะผิด "

" ท่านรังเกียจข้าไม่ใช่รึ จะคืนคำรึยังไงกัน "

" ข้าเกลียดเจ้า แต่ไม่ใช่รังเกียจ "

" …………………แต่ข้ารังเกียจ คนอย่างท่านก็เหมือนสัตว์ป่า เป็นเดรัจฉานที่ฆ่าคนทำร้ายคนได้อย่างไม่ต้องอาศัยความคิดแม้ชั่วครู่ชั่วยามเสียด้วยซ้ำ "

" พี่เจ้าก็เหมือนกันนั่นล่ะ " น้ำเสียงของกษัตริย์เย็นเยียบขึ้นทันที

" ไม่เหมือน "

" พี่เจ้าอาจจะไม่ให้มือตัวเองเปื้อนเลือด แต่ก็ใช้กษัตริย์ไทฟุให้ฆ่าคนให้ "

" ถ้าท่านไม่รุกรานเรา ท่านพี่ข้าก็ไม่ต้องทำเช่นนั้น คนอย่างท่านมันไร้ความรู้สึก ไร้สามัญสำนึก "

" ไม่สบอารมณ์เลย เด็กไม่รู้จักโลกอย่างเจ้ามาว่าข้าแบบนี้ พนันกันไหมล่ะ พี่ชายคนซื่อของเจ้าน่ะที่จริงเจ้าเล่ห์ซะยิ่งกว่าใคร ไม่งั้นคงพาตาแก่นั่นมานี่ไม่ได้หรอก ข้าจะสอนเจ้านะว่า คนน่ะมันซ่อนธาตุแท้กันได้ แต่พอสบโอกาสไอ้สิ่งที่ซ่อนไว้น่ะมันก็เผยออกมาหมดนั่นล่ะ เจ้าก็เหมือนกันเจ้าซ่อนอะไรเอาไว้ "

เจ้าชายทัตสึมะรู้สึกหงุดหงิดกับวาจาที่เหยียดหยามของกษัตริย์คู่กรณี

แต่คราวนี้พระองค์กลับนิ่งเงียบอย่างที่ตัวพระองค์เองก็ไม่ทรงทราบสาเหตุ ท่านพี่คนนั้นน่ะรึจะเปลี่ยนไป ชายคนนี้โกหกใช่มั้ย

ปีศาจน่ะโกหกได้ทุกอย่างนั่นล่ะ ใช่…..นี่เป็นเรื่องไม่จริง

" เอาล่ะ ถ้าหมดเรื่องพูดแล้ว เรามาเริ่มเรื่องของเรากันดีกว่า "

" อย่านะ….! " เจ้าชายทัตสึมะผลักกษัตริย์ชินบุออกเต็มแรง ทันทีที่ทรงเป็นอิสระก็วิ่งออกไปที่สวน เป็นเวลากว่า 2 ยาม

บรรยากาศรอบด้านมืดสนิท มีเพียงเสียงจั้กจั่นที่ร้องอยู่….นี่ไม่ใช่เวลาที่เจ้าชายน้อยจะฟังเสียงจั้กจั่นอยู่หรอก

" ข้าขี้เกียจเล่นซ่อนหากับเจ้าหรอกนะ " กษัตริย์ตะโกน ในขณะที่เจ้าชายหลบอยู่หลังพุ่มไม้ เสียงหัวใจของพระองค์เต้นระทึก

เสียงฝีเท้าของกษัตริย์ใกล้เข้ามา ราวกับเสือที่จ้องตะครุบเหยื่อ นี่ไม่ใช่การเล่นซ่อนหาอย่างที่เคยเมื่อวัยเยาว์ แต่เป็นการหลบซ่อน

ถ้าทรงถูกพบ……. ทรงรู้สึกเหมือนถูกกระชากออกจากพุ่มไม้อย่างแรง ใบหน้าของกษัตริย์ที่ทอดเงาใต้แสงจันทร์นั้นน่ากลัว น่าเกรงขาม

ดวงตาถมึงทึงที่จ้องลงมาราวกับมีความแค้นสุมทรวงมาแต่ชาติปางก่อน

" ปล่อยข้า " เจ้าชายร้อง แต่กษัตริย์ไม่ฟังเสียง ทรงดึงข้อมือขวาของเจ้าชายและฉุดกระชากลากเจ้าชายไปตามพื้นดิน

ขาของเจ้าชายครูดไปกับพื้นดิน ทั้งแสบ ทั้งเจ็บปวด ข้อมือที่ถูกบีบนั้นเจ็บจนแทบจะกรรแสงออกมา

" ข้าขอร้อง ปล่อยข้าเถอะ " น้ำเสียงของเจ้าชายเศร้าสลดและเริ่มแสดงถึงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

แต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีว่าจะแสดงความสงสาร

" ไร้สาระ ข้าเหนื่อยแล้วก็หงุดหงิดเต็มทีแล้ว ข้าต้องการพักผ่อน….เข้าใจมั้ย จะลุกเดินเองหรือจะให้ข้าลากเจ้า

"น้ำเสียงของกษัตริย์ชินบุกึ่งขู่เข็ญ กึ่งเหนื่อยหน่าย พระองค์ปล่อยมือออกจากข้อมือของเจ้าชาย

ทรงหันกลับมาก้มลงมองพระพักตร์ซีดเผือดของเจ้าชายที่น่าสังเวชอีกครั้ง เจ้าชาย

ทัตสึมะกรรแสงอย่างโศกเศร้าออกมา หยาดน้ำตาไหลอาบแก้ม ดวงพระเนตรทั้งคู่บ่งบอกถึงความเคืองแค้น ปวดร้าว

ความหวาดหวั่นแสดงออกมาอย่างชัดเจน เป็นครั้งแรกที่กษัตริย์ชินบุสังเกตเห็นบางอย่าง เจ้าชายทัตสึมะยังคงเยาว์อยู่มาก

ลำแขนที่ทรงบีบเมื่อครู่เล็กและเปราะบาง ใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำตา ชวนเวทนายิ่งนัก เป็นเด็กที่งดงาม

เป็นตุ๊กตาที่ควรค่าแก่การจ่ายเพื่อเชยชม

" เจ้าไม่ควรที่จะแค้นเคืองข้าเลย ข้าชื่นชมความอดทนของเจ้าตลอดเวลากว่า 1 เดือนนี่ แต่เจ้าควรจะรู้ว่าไม่มีอะไรที่มันง่ายดังที่คิด ถ้าจะแค้น แค้นพี่เจ้า คนที่ทิ้งเจ้าไว้นี่ เป็นเจ้าชายตัวรองบ่อน เจ้าคิดว่าพี่เจ้าหวังให้เจ้าพยุงสถานการณ์งั้นรึ ไม่เลย…เขาต้องการถ่วงเวลา เขาไม่กังวลว่าเจ้าจะเป็นตายร้ายดียังไง จะถูกข้าฆ่าทิ้งหรือเหยียดหยาม เรื่องคืนนี้มันเป็นความผิดของเจ้า ผิดที่โง่เชื่อคนอื่นจนเกินไป "

" ท่านโกหก " เจ้าชายน้อยตะโกน

" ถ้าข้าเป็นเจ้า จะต้องดัดหลังพี่เจ้าที่หนีไปซบอกกษัตริย์ไทฟุ ผูกสัมพันธ์กับข้าสิ แล้วเจ้าจะได้เป็นผู้ครองแคว้น ไม่ต้องเป็นตัวรองบ่อนของใคร ถึงจะโง่แค่ไหนก็น่าจะเข้าใจที่ข้าพูดหรอกนะ "

เจ้าชายทัตสึมะไม่ตอบ ทรงนิ่งเงียบอยู่นานราวกับกำลังครุ่นคิด แน่นอนว่าฝ่ายกษัตริย์ย่อมคาดหวังในชัยชนะจากน้ำคำของพระองค์

เด็กแบบนี้ไม่มีใจที่จะเข้มแข็งหรือต่อสู้นักหรอก ทรงคิด

" มา ไปกับข้า ข้าคงไม่ต้องลากเจ้าไปอีกหรอกนะ " กษัตริย์ยืนมือขวาออกมา เจ้าชายน้อยเองก็ยื่นมือซ้ายออก

" โอ๊ย! "

เจ้าชายกัดเข้าที่นิ้วก้อยของกษัตริย์ชินบุอย่างแรง ด้วยความตกใจกษัตริย์ชินบุพยายามสะบัดเจ้าชายออก อีกฝ่ายยังคงกัดไม่ยอมปล่อย

เจ้าชายทรงรู้สึกว่ามีกลิ่นคาวเลือดอยู่ที่ริมฝีปาก เสียงตะโกนด้วยความโมโหขององค์กษัตริย์ดังอยู่ไกลออกไป

ทุกอย่างที่พระองค์รับรู้ในขณะนี้มีเพียงเสียงหัวใจของพระองค์เอง ในที่สุดทรงเหวี่ยงเจ้าชายทัตสึมะออกไป

เจ้าชายทัตสึมะไม่แม้แต่หันกลับมามองเบื้องหลัง พระองค์ออกวิ่งไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ฝ่าไปในความมืดมิดเบื้องหน้า

ในห้วงของความเป็นและความตาย

.........................

" เราไม่ได้ตกลงว่าจะเริ่มการโจมตีในคืนนี้ " เจ้าชายทาคาสึระตรัส


" แผนการรบเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงกันได้ ท่านก็ทราบดี "

บุรุษวัยกลางคนในเครื่องฉลององค์เต็มยศเช่นนักรบตรัสตอบ นางกำนัล 3-4 คนถวายบังคมลาแล้วเดินออกจากห้องไป

" … จะเสด็จไปบัญชาการรบเองรึ ไม่เคยทราบมาก่อน "

" ก็แค่เป็นพิธี ว่าแต่ท่าน จะไปด้วยกันไหม อยากเด็ดหัวศัตรูที่น่าชังนั่นรึเปล่า " ทรงตรัสถามเจ้าชายที่ยืนนิ่งเงียบอยู่

ดวงตาที่มองกลับมานั้นแฝงแววครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ไม่ใช่ตาที่ใสแวววาว คม หรือชวนมองนัก แต่มีเสน่ห์อย่างประหลาด

คงจะเป็นเจ้าสิ่งนั้นกระมังที่ทำให้กษัตริย์ไทฟุต้องดั้นด้นมาถึงเรียวโฮ

" ตกลงว่าแผนการณ์ของท่านเป็นเช่นไรล่ะ ข้าไม่คิดจะก้าวก่ายงานของท่านสำหรับสนามรบข้าคิดว่าข้าพิจารณาตนเองว่าอยู่ในสถานะใดได้ แต่ในฐานะที่เราเป็นพันธมิตร การที่ข้าจะไม่รู้อะไรเลยย่อมกลายเป็นบุคคลที่ไร้ความรับผิดชอบเป็นแน่ " ทาคาสึระยิ้มให้ เพียงแต่ฉีกรอยยิ้มที่มุม

ริมฝีปากก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะต้องเลี่ยงที่จะมองพระพักตร์ของพระองค์


" เราจะโจมตีปราสาทเป็นหลัก เข้าล้อมและเผา คงจะเสียหายบ้างเล็กน้อย พวกเกไดคงจะต้องอพยพออกมานอกปราสาท จะเข้าทางของเรา "

กษัตริย์ไทฟุทรงสรวลเบาๆก่อนจะตรัสต่อไป " พอใจไหม "

" อะไร…."


" ข้าเอาใจท่านถึงเพียงนี้เชียวนะ เดิมพันกับความคิดของท่าน"

" อะไรที่ท่านเห็นว่าไม่ดี ไม่ได้ประโยชน์ท่านก็คงไม่ทำแน่ ….นี่จึงไม่สมควรเป็นหนี้บุญคุณหรอกกษัตริย์ไทฟุแห่งโฮซึมะน้ำพระทัยกว้างขวางเพียงใด ตัวข้าซาบซึ้งอย่างยิ่งทีเดียว "

เจ้าชายทาคาสึระตรัสตอบพลางโค้งคำนับน้อยๆ แต่น้ำเสียงของพระองค์ไม่ได้ชวนให้อีกฝ่ายตีความตามรูปประโยคนักหรอก

" ไม่เสียดายบ้างรึ " องค์กษัตริย์ตรัสถาม

" อะไร …ถ้าหมายถึงปราสาท น่าจะทรงทราบว่าไม่มีสิ่งใดที่ทำให้ข้ารู้สึกแย่ไปกว่าฐานะปัจจุบันนี้อีกแล้ว"

" งั้นขอให้ท่านอยู่ที่นี่เงียบๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย…..แน่ใจนะว่าอนุญาตให้ข้าทำทุกอย่างได้ตามใจ ไม่มีอะไรหรือใครที่ท่านต้องการในนั้น "

กษัตริย์ตรัสถามก่อนจะเสด็จออกไป เจ้าชายเพียงแต่ยิ้มให้เท่านั้น สำหรับกษัตริย์ฝ่ายพันธมิตร ช่างเป็นรอยยิ้มที่เยียบเย็น

ไร้ซึ่งความวิตกกังวลใดๆ ก็ควรแก่การได้ชื่อว่าผู้ครองแคว้นอยู่หรอก แต่กับเด็กหนุ่มอายุเพียงนี้…ออกจะเกินไปหน่อย

........................................


เจ้าชายทาคาสึระเดินวนอยู่รอบๆค่ายทหาร ทหารส่วนมากออกไปประจำการ

ค่ายนี้แม้จะยังมีทหารคุ้มกันอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าร้างไปมากเมื่อเทียบกับเมื่อชั่วยามที่ผ่านมา เจ้าชายไม่ได้เสวนากับทหารของโฮซึมะนัก

ทรงยิ้มให้และไต่ถามสารทุกข์สุขดิบตามธรรมเนียม แต่แม้ว่านั่นจะเป็นธรรมเนียม ด้วยอากัปกิริยาที่สวยงามของพระองค์

ก็ราวกับทรงจริงใจเสียเต็มประดา

ทาคาสึระเดินอ้อมไปด้านหลังค่ายที่มียามเฝ้าอยู่น้อยและกำลังอยู่ในช่วงผลัดเวรบริเวณนั้นจึงค่อนข้างสับสนเล็กน้อย

" คาเสะ มาแล้วใช่มั้ย "

ฉับพลันร่างร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ราวกับหายตัว….เจ้าชายผงะไปชั่วขณะ

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพยายามทำตัวให้ชินกับการเคลื่อนไหวของ..คาเสะ

" ท่านก็ตกใจเป็นเหมือนกันนี่นะ " นินจาอดีตคนทรยศล้อเลียน

" ……สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง น้องข้า ทัตสึมะเป็นยังไงบ้าง " …..น้ำเสียงออกจะประหม่าเล็กน้อย

" ข่าวดีหรือข่าวร้าย ท่านสนใจฟังข่าวไหน "

" ข้าไม่สนใจว่าข่าวไหน ทัตสึมะยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย "

" ถ้าตอนนี้ล่ะใช่ พวกในวังลือกันให้แซ่ดว่าชั่วยามก่อนเจ้าชายหนีออกไปจากวัง….. "

" ทัตสึมะไม่รู้ว่าจะมีการโจมตี ทำไมเขาถึงหนีออกไป"

" น่าจะเดาออก ถ้าเห็นสายตาของคนพวกนั้นตอนที่พูดถึงเจ้าชายทัตสึมะ กษัตริย์ชินบุพยายามเอาชนะท่าน แต่ดูเหมือนเจ้าชายน้อยจะไม่เล่นด้วย "

" ชั่วช้า! พาข้าไปจากที่นี่ที ข้าต้องช่วยทัตสึมะ " เจ้าชายทาคาสึระกึ่งขอร้องกึ่งออกคำสั่ง ก็ดวงตาคู่เดียวกับที่มองเห็นว่าเลือดเย็นนั่นล่ะ

ตอนนี้ราวกลับดูอ่อนไปถนัดตา

" มันอันตราย บอกทางข้ามาเถอะ ถ้าเป็นบุคคลที่ท่านรักล่ะก็ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าก็จะปกป้องคนผู้นั้นด้วยชีวิตแน่นอน "

" ….นั่นน้องข้า ญาติคนสุดท้ายของข้า ไปด้วยกันเถอะคาเสะ ข้าไม่มั่นใจหรอกว่าปราศจากเจ้าข้าจะไปได้รอด แต่ก็..ไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวที่จะปล่อยเจ้ากับทัตสึมะไปได้ "

" ก็นึกอยู่แล้วว่าต้องพูดแบบนี้ ข้าได้ยินที่ท่านพูดกับกษัตริย์ไทฟุ "

" คิดว่าข้าชั่วร้ายขนาดนั้น " เจ้าชายหัวเราะ

" ข้าไม่สนใจหรอก ข้าแค่ต้องการรู้ว่าควรจะปฏิบัติตนอย่างไรเท่านั้น ถ้าท่านไม่บอก ข้ารับใช้คนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ "

" ไปกันเถอะ "

 

กลับหน้าเดิม

ไปต่อ