Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
 

 

 

อยู่กับธรรม  

เมื่อรบสู้ กับศัตรู สู้ด้วยธรรม

จะปลุกปล้ำ กันเท่าใด ไม่เสียหาย

ถ้าสู้กัน อย่างนี้ ไม่มีตาย

ในสุดท้าย จะปรองดอง ต้องใจกัน

 

เมื่อป้องกัน ศัตรู รู้ใช้ธรรม

เป็นกำแพง เพชรล้ำ เลิศมหันต์

ป้องกันได้ สารพัด น่าอัศจรรย์

ป้อมค่ายมั่น กว่าสิ่งใด ในโลกคน

 

เมื่อหลบซ่อน จากศัตรู อยู่กับธรรม

ไม่ระกำ ทุกข์เห็น สักเส้นขน

ช่วยปลุกปลอบ ชื่นชอบ ฉ่ำกมล

ขอทุกคน จงมีธรรม ประจำกายฯ  

 

 

๑. บทนำ

นายธรรมทาส พานิช น้องชายท่านอาจารย์พุทธทาส ผู้ร่วมก่อตั้งคณะธรรมทานนายธรรมทาส พานิช เดิมท่านชื่อ ยี่เก้ย พานิช เป็นบุตรคนที่สอง ในจำนวน สามคน ของ นายเซี้ยง นางเคลื่อน พานิช มีพี่ชายคือ นายเงื่อม (พุทธทาสภิกขุ) และน้องสาวคือ นางกิมช้อย เหมะกุล  เกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ ๑๔ มีนาคม  ๒๔๕๑ ณ บ้านพุมเรียง หมู่ที่ ๒ ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครอบครัวมีอาชีพ ค้าขาย บิดาเป็นคนไทยเชื้อสาย จีนฮกเกี้ยน ปู่ชื่อ ลิก้อเสีย แซ่โค้ว มาจากอำเภอเพาเล่งกุ้ย เขตแต้จิ๋ว ย่าชื่อ ส้มจีน ส่วนมารดาเชื้อสายไทย เป็นบุตรของ ขุนสิทธิสาร(เล่ง) และนางใจ เป็นชาวท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำหรับนามสกุล "พานิช" เป็นนามสกุลที่ นายอำเภอตั้งให้ เมื่อมีพระราชบัญญัตินามสกุล ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ที่มีชื่อสกุลเช่นนี้ ก็เพราะ ครอบครัว ประกอบทำการค้าขาย เป็นอาชีพนั่นเอง

ในส่วนของบิดา นอกจากจะประกอบอาชีพค้าขายแล้ว ยังเป็นช่างไม้ มีความสามารถในการต่อเรือ นอกจากนี้ยังชอบแต่งโคลง แต่งกลอน เรียกได้ว่า มีวิญญาณกวีเต็มตัว ทางฝ่ายมารดา เป็นผู้มีควาประหยัด ละเอียดลออ ในการใช้จ่าย การใช้สิ่งของเครื่องใช้ ทุกอย่างที่ประหยัดได้ จะต้องประหยัด และเมื่อลูกๆ จะทำสิ่งใด ก็มักจะตักเตือน ให้ทำให้ดีที่สุด ถ้าใครทำสิ่งหยาบๆ จะถูกทักท้วงทันที นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้ที่ ไม่ปล่อยเวลา ให้ล่วงเลยไป โดยเปล่าประโยชน์ อีกด้วย เนื่องจากมีความ ใกล้ชิดกับมารดา มากกว่าบิดา ลักษณะนิสัยทางฝ่ายมารดา ทั้งสามประการดังกล่าว ดูเหมือนจะมีอิทธิพล ต่อนายยี่เก้ย มาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งปัจจุบันนี้

๒. การศึกษาเล่าเรียน

เมื่อนายยี่เก้ย อายุได้ ๗ ขวบ บิดามารดา ได้พาไปฝากให้ได้รับการศึกษาเบื้องต้น ที่โรงเรียน โพธิพิทยากร โดยเรียนที่หอสวดมนต์วัดโพธาราม พุมเรียง เมื่อจบชั้นประถมปีที่ ๔ แล้ว ได้เรียนต่อชั้นมัธยมปีที่ ๑-๓ ที่นี่ต่อไปอีก หลังจากจบชั้นมัธยมปีที่ ๓ ก็ได้ไปต่อชั้นมัธยมปีที่ ๔ ที่โรงเรียน สารภีอุทิศอยู่ครึ่งปี ขณะที่เรียนชั้นมัธยมปีที่ ๔ บิดาเสียชีวิต จึงได้ออกจากโรงเรียน ไปบวชเป็นสามเณร จำพรรษาอยู่ที่ พุมเรียง หนึ่งปี ปีที่สอง ไปจำพรรษา อยู่ที่วัดไตรธรรมาราม และเข้าโรงเรียนประจำมณฑลสุราษฎร์ (สุราษฎร์ธานี) เรียนชั้นมัธยมปีที่ ๔ ครั้นจบมัธยมปีที่ ๕ แล้วสึก และเรียนอยู่ที่ชั้นมัธยมปีที่ ๖ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ต่อจากนั้นได้เดินทาง เข้ากรุงเทพฯ และได้เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมปีที่ ๗-๘ ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ ๘ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๘ ก็สอบเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ คณะอักษรศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ และเข้าศึกษา เตรียมแพทย์ปีที่หนึ่ง ในปีเดียวกันกับที่ พี่ชายบวชพระ นั่นเอง เมื่อเรียนได้หนึ่งภาคเรียน ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน พบว่า พระเงื่อม ไม่ลาสิกขา ตามกำหนด นายยี่เก้ย จึงตัดสินใจลาออก จากการศึกษาในมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผล ออกมาช่วยมารดา ดำเนินกิจการค้าขาย และเพื่อที่พระเงื่อมพี่ชายจะได้บวชต่อไป ประกอบกับ ไม่ชอบที่จะเป็นแพทย์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย 

 NEXT
บทความในวารสาร พุทธสาสนา ปีที่ ๖๘ เล่ม ๓ พุทธศักราช ๒๕๔๓ ฉบับพิเศษ สดุดีครูธรรมทาส พานิช เขียนโดย ชวน เพชรแก้ว พ.ศ. ๒๕๒๘