Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
 




เราถือศาสนาอะไรกันแน่

 

ศาสนา โบสถ์วิหาร การวัดวา

ศาสนา คือพระธรรม คำสั่งสอน

ศาสนา ประพฤติธรรม ตามขั้นตอน

ศาสนา พาสัตว์จร จวบนิพพาน

 

ศาสนา เนื้องอก พอกพระธรรม

ศาสนา น้ำครำ ของเป็ดห่าน

ศาสนา ภูตผี พานิชการ

ศาสนา วิตถาร กวนบ้านเมือง

 

ศาสนา ใหม่ใหม่ ร้ายกว่าเก่า

ศาสนา ของพวกเจ้า โจรผ้าเหลือง

ศาสนา ปัจจุบัน พันการเมือง

ศาสนา มลังเมลือง เมืองคนเย็นฯ

 

 

ินิทานเรื่องสั้นของท่านพุทธทาส  เรื่อง สัตว์ ๒ เท้า

วันหนึ่ง เมื่อนานมาแล้ว มดแมลง ต่างๆ ประชุม ปรึกษากัน ว่า พวกสัตว์สองขา ตัวโตๆ มหึมา เหล่าโน้น เขาคุยกันว่า เขาคิด ของใหม่ ขึ้นได้ เรียกว่า "ลัทธิต่างๆ" ทางวัฒนธรรม ทางศาสนา ทางการเมือง ฯลฯ สำหรับ ทำพวกเขา ให้ได้รับ ประโยชน์ ในการเกิดมา ในโลกนี้ อย่างที่ สัตว์ทั้งหลาย ไม่เคยได้รับ มาแต่ก่อน และเป็นเรื่องหนัก ไปในทาง วิญญาณจิตใจ ยิ่งกว่าทางวัตถุ (แต่ก็ไม่พ้นที่จะหวังผลเป็นวัตถุ) จัดว่าเป็น ของวิเศษแท้ มดง่ามแก่ ตัวหนึ่ง ตังข้อหา สงสัยว่า การสร้าง "ลัทธิ" ใหม่ๆ อะไรขึ้นนั้น ยังสงสัยอยู่ว่า จะกลายเป็น การจำกัด ความเป็นอิสระ ของวิญญาณ ให้แคบเข้า ยิ่งขึ้นไปอีก หรือว่า จะเป็นการเปิด โล่งโถง ให้ถึงที่สุด ไม่มีอะไร ที่เป็น คุกตะราง ทางวิญญาณ กันจริงๆ ที่จริง เพียงแต่ สัญชาตญาณ แห่งการ กินอาหาร การทำที่อยู่อาศัย การสืบพันธุ์ และ การดิ้นรนต่อสู้ เพื่อความรอด อื่นๆ ก็เป็นคุก ของวิญญาณ มากพอ อยู่แล้ว เราต้อง คอยสังเกต ดูต่อไปก่อน ว่า "ลัทธิ" นั้นๆ จะมีผล ไปทางไหนกัน ก่อนแต่ที่ พวกเราจะเอาอย่าง สัตว์สองขา เหล่านั้น

ยิ่งวัน สัตว์สองขาเหล่านั้น ยิ่งรู้จักบัญญัติ แต่งตั้ง "ลัทธิ" ต่างๆ ขึ้นถือรั้น มากขึ้น จนกระทั่ง เกิดการแตก เป็นพวก และถือพวกจัด ถือความเคยชิน ในสิ่ง ที่บรรพบุรุษ ของตน เคยสงวน เกิดเป็น สถาบันต่างๆ อันศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีสัตว์สองขา ตัวใดที่ถือว่า "ของจริง" นั้นเป็น "ของกลาง" ของสัตว์ทั้งปวง ไม่ว่าจะมีกี่ขา และทุกๆคน ควรจะเลื่อนตัวเอง ไปในทางสูง ยิ่งขึ้น ตามลำดับ ของจริงที่ ไม่เป็น คุกตะรางโดยไม่ต้อง รังเกียจ การเปลี่ยนลัทธิ หรือนิกาย และโดยไม่ต้อง กระดาก ในการที่จะ เปลี่ยน แม้จาก "ศาสนา" ที่ต่ำมาเป็น "ศาสนา" ที่สูง หรือ ในระดับที่สูง ขึ้นไป แต่ในที่สุด "ลัทธิ" ต่างๆ เหล่านั้น ได้กลายเป็น คุกขัง วิญญาณ ขึ้นนานาชนิด จนหลีกไม่ไหว มดแมลงเหล่านั้น จึงยังคง สมัครใจ ที่จะอยู่ในคุก ที่มีกำแพงโปร่ง และเพียงบางๆ ต่อไปตามเดิม

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: คุกใหม่ ที่มีกำแพง หนาทึบ เป็นแก้ว เป็นเพชร หรือ เป็นสวรรค์วิมาน หรือ เป็นตัณหา มานะทิฎฐิ อิจฉาริษยา ซึ่งเป็นฝีมือ ของมนุษย์เอง นานาชนิดนั้น เป็นสิ่งที่ พังทะลาย ได้ยากกว่า คุกดั้งเดิม เหลือที่จะ เปรียบกันได้ แต่ใครๆ อย่าหาญ ทำการแหกคุก เป็นอันขาด จะขายหน้า มดแมลง เหล่านั้น ซึ่งกำลัง ภาคภูมิใจ อยู่ด้วย ปัญหาว่า ใครกำลังอยู่ในคุก ที่โปร่งสบาย ทำลายได้ ง่ายกว่ากัน?

 

BACK NEXT

 

คัดจากหนังสือ นิทานเซ็น มหรสพทางวิญญาณเพื่อจริยธรรม เล่าโดย.. ท่านพุทธทาสภิกขุ แห่งสวนโมกขพลาราม ณ หอประชุมคุรุสภา พุทธศักราช ๒๕๐๕ พิมพ์โดย ธรรมสภา