Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!


โปรแกรมไตเตรชั่นและไฟล์ประกอบ (ตอนที่ 3)


สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวหว้ากอทุกท่าน หัวข้อ “ทำความเข้าใจเรื่องไตเตรชั่น” ตอนนี้เป็นตอนที่สามแล้วครับ เมื่อสองกระทู้ที่แล้วผมได้กล่าวถึงหลักการคำนวณ และสร้างเส้นโค้งไตเตรชั่น ของ (สารเคมีในบิวเรต, สารเคมีใน ขวดแก้วรูปชมพู่): (กรดแก่, เบสแก่), (เบสแก่, กรดแก่), (กรดอ่อน, เบสแก่), (เบสแก่, กรดอ่อน), (เบสอ่อน, กรดแก่), (กรดแก่, เบสอ่อน) ซึ่งกรดหรือเบสอ่อนที่ใช้แตกตัวให้โปรตอน หรือไฮดรอกไซด์ไอออน ได้อย่างละหนึ่งตัวเท่านั้น

กระทู้นี้เราจะกล่าวถึงการไตเตรตกรดหรือเบสที่แตกตัวได้มากกว่าหนึ่งครั้ง (polyfunctional acids / bases), รวมถึง สารเคมีที่มีคุณสมบัติ amphiprotic คือทั้งให้และรับโปรตอนได้ อย่างเช่น H2PO4- และ HCO32- อีกเรื่องที่ขาดไม่ได้คือ การคำนวณค่าอัลฟ่า สำหรับพิจารณาความ เข้มข้นสัมพัทธ์ของคู่กรดเบสระหว่างกระบวนการไตเตรต ครับ

ก่อนจะพิจารณาเส้นโค้งไตเตรชั่น เราลองมาแก้โจทย์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ polyfunctional acids/bases กันครับ

โจทย์ข้อที่หนึ่ง

คำนวณค่า pH ของสารละลายบัฟเฟอร์ที่ประกอบด้วย กรดฟอสฟอริก (H3PO4) 2.00 M และ โปแทสเซียมไดไฮโดรเจนฟอสเฟต (KH2PO4) 1.50 M เมื่อเราสมมุติให้ A แทนฟอสเฟตไอออน จะเขียนสมดุลเคมีได้ดังนี้
1) H3A + H2O <-----> H2A- + H3O+
2) H2A- + H2O <-----> HA2- + H3O+
3) HA2- + H2O <-----> A3- + H3O+

จากสมการ (1); Ka1 = [H2A-][H3O+]/[H3A]
จากสมการ (2); Ka2 = [HA2-][H3O+]/[ H2A-]
จากสมการ (3); Ka3 = [A3-][H3O+]/[HA2-]

ให้ a = [H3A], b = [H2A-], c = [HA2-], d = [A3-], p = [H3O+]

เขียนสามสมการข้างต้นใหม่ได้ Ka1 = bp/a, Ka2 = cp/b, Ka3 = dp/c,
Ka1 = 7.11 x 10-3
Ka1*Ka2 = cp2/a, Ka2 = 6.32 x 10-8
Ka1*Ka2*Ka3 = dp3/a, Ka3 = 4.50 x 10-13

a = a
b = a*Ka1/p…………………………………………………….(4)
c = a*Ka1*Ka2/p2…………………………………(5)
d = a*Ka1*Ka2*Ka3/p3…………………………..(6)

เนื่องจากเรามี 5 ตัวแปร จึงต้องการสมการที่ independent ซึ่งกันและกัน 5 สมการ

สมการ (4), สมดุลมวล; ความเข้มข้นของแหล่งฟอสเฟต = a + b + c + d……………….(7)
สมการ (5), สมดุลประจุ; ความเข้มข้นของแหล่งประจุบวก + p = b + 2c + 3d + 1e-14/p……………..(8)

ให้ความเข้มข้นของแหล่งฟอสเฟตเป็น K4 = 2 + 1.5 = 3.5
และความเข้มข้นของแหล่งประจุบวกเป็น K5 = 1.5

เราจัดรูปสมการ (7) และ (8) ใหม่ได้เป็น

a = K4 / (1 + K1/p + K1*K2/p2 + K1*K2*K3/p3)………….(9)
p = aK1/p + 2*a*K1*K2/p2 + 3*a*K1*K2*K3/p3 + 1E-14/p – K5…………(10)

เราแก้สมการ (6) ด้วย numerical method ได้ โดยสุ่มค่า p ในสมการ (9) เป็น 1E-7 เพื่อหาค่า a ที่จะใส่ลงไปในสมการ (10) เพื่อคำนวณค่า p ออกมาอีกครั้ง ทำด้วยกระบวนการ Iteration กระทั่งการเปลี่ยนแปลงค่า p น้อยกว่า 1E-12

a = 1.990623 M, b = 1.509367 M, c = 1 x 10-5, d = 4.88 x 10-6, p = 9.38 x 10-3 M, และ pH = 2.03

ในกรณีที่เราไม่มีคอมพิวเตอร์ อาจใช้วิธีประมาณค่าเอา ว่า a มีค่าประมาณ 2 M และ b มีค่าประมาณ 1.5 M
จาก b = a*Ka1/p; p = a*Ka1/b = 2*7.11 x 10-3/1.5 = 9.48 x 10-3
ดังนั้นค่า pH = 2.02

แต่เพราะตอนนี้เราใช้คอมพิวเตอร์วิธีประมาณค่าจึงไม่จำเป็นครับ และการคำนวณต่อ ๆ ไป เราจะใช้ Numerical method ทั้งหมด เพื่อความถูกต้องในทุกกรณี ไม่เฉพาะเจาะจงกับเงื่อนไข ที่ว่าค่าการแตกตัว ของกรดต้องห่างกันประมาณ 1000 เท่า ฯลฯ


โจทย์ข้อที่สอง
คำนวณค่า pH ของสารละลายบัฟเฟอร์ที่ประกอบด้วย 0.05 M potassium hydrogen phthalate (KHP) และ 0.15 M potassium phthalate (K2P)
H2P + H2O <----> HP- + H3O+
HP- + H2O <----> P2- + H3O+

a = H2P, b = HP-, c = P2-, p = H3O+

Ka1 = 1.12 x 10-3 = bp/a; b = a*Ka1/p
Ka2 = 3.91 x 10-6 = cp/b
Ka1*Ka2 = cp2/a; c = a*Ka1*Ka2/p2

ค่า K4 = 0.05 + 0.15 = 0.20 M และ K5 = 0.05 + 2*0.15 = 0.35 M

a = K4 / (1 + K1/p + K1*K2/p2)………….(11)
p = aK1/p + 2*a*K1*K2/p2+ 1E-14/p – K5…………(12)

เมื่อแก้สมการแล้วเราได้ค่า p = 1.30E-6 และค่า pH = 5.89


โจทย์ข้อที่สาม
คำนวณค่า pH ของสารละลายบัฟเฟอร์ 0.1 M NaHCO3

Ka1 = 4.45 x 10-7, Ka2 = 4.69 x 10-11

ค่า K4 = 0.1 M และ K5 = 0.1 M

a = K4 / (1 + K1/p + K1*K2/p2)
p = aK1/p + 2*a*K1*K2/p2+ 1E-14/p – K5
เมื่อแก้สมการแล้วเราได้ค่า p = 4.57e-9 และค่า pH = 8.34

โจทย์ข้อที่สี่
คำนวณค่า pH ของสารละลายบัฟเฟอร์ 0.001 M Na2HPO4

Ka1 = 7.11 x 10-3, Ka2 = 6.32 x 10-8 , Ka3 = 4.5 x 10-13

ค่า K4 = 0.001 M และ K5 = 0.002 M

a = K4 / (1 + K1/p + K1*K2/p2 + K1*K2*K3/p3)
p = aK1/p + 2*a*K1*K2/p2 + 3*a*K1*K2*K3/p3 + 1E-14/p – K5

เมื่อแก้สมการแล้วเราได้ค่า p = 8.18e-10 และค่า pH = 9.09

โจทย์ข้อที่ห้า
คำนวณค่า pH ของสารละลายบัฟเฟอร์ 0.01 M NaH2PO4

Ka1 = 7.11 x 10-3, Ka2 = 6.32 x 10-8 , Ka3 = 4.5 x 10-13

ค่า K4 = 0.01 M และ K5 = 0.01 M

a = K4 / (1 + K1/p + K1*K2/p2 + K1*K2*K3/p3)
p = aK1/p + 2*a*K1*K2/p2 + 3*a*K1*K2*K3/p3 + 1E-14/p – K5

เมื่อแก้สมการแล้วเราได้ค่า p = 1.62e-5 และค่า pH = 4.79

เพื่อน ๆ ครับ โจทย์ข้อที่หนึ่ง ถึงห้านั้น หากไม่ใช้คอมพิวเตอร์คำนวณแล้ว เราจะต้องพิจารณา อย่างละเอียดเป็นกรณี ๆ ไป เพื่อจะได้ประยุกต์ใช้สมการลดรูปที่เหมาะสม (ดูรายละเอียดใน textbook Analytical chemistry ทั่วไป) ดังที่แสดงไว้ใน

Skoog, D. A., West, D. M., Holler, F. J. 1996. Fundamentals of Analytical Chemistry, 7th edn, Saunders College Publishing, Fort Worth, Chapter 9 – 11.

ข้อเสียของการใช้สมการรูปเต็มคือ แม้จะคำนวณได้ถูกต้องแต่จะช้า (แต่ละการคำนวณใช้เวลา 5 วินาที ดังนั้นถ้าเรา มี 200 จุด บนเส้นโค้งไตเตรชั่น จะใช้เวลาถึง 1000 วินาที หรือเกือบ 17 นาที) การแก้ปัญหานี้ก็คือ ให้โปรแกรมคำนวณทั้งแบบสมการลดรูป และแบบสมการรูปเต็ม แล้วเปรียบเทียบความแตกต่างสัมพัทธ์ ถ้าความแตกต่าง สัมพัทธ์น้อยกว่า 1e-5 ก็ให้โปรแกรมคำนวณจุดต่อไปโดยใช้สมการลดรูปครับ (ค่า 1e-5 นี้ได้มาจากการให้ คอมพิวเตอร์ไตเตรตสารเคมีหลายชนิด และพบว่าเป็นค่าที่เหมาะสม)

ในบางกรณีที่เราไตเตรตกรดค่อนข้างอ่อนอย่างกรดคาร์บอนิคหรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ การคำนวณอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสมการก่อนจุดสมมูลที่หนึ่ง,สอง และหลังจากจุดสมมูลที่หนึ่ง,สอง ครับ และ ความเข้มข้นของโปรตอนก็น้อยมาก ๆ ด้วย (น้อยกว่า 1e-12) ทำให้การคำนวณให้ได้ค่าที่ถูกต้องเป็นไปได้ยาก

ค่าคงที่การแตกตัวของกรดอ่อนที่ให้ไว้ในกระทู้ที่แล้วและกระทู้นี้ ใช้ได้ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสครับ


หน้าต่างเลือกระบบไตเตรชั่น ซึ่งในเวอร์ชั่น 3 นี้เราได้เพิ่ม polyfunctional acid, polyfunctional base, และ amphiprotic species เข้ามาครับ


Dialog box สำหรับเลือก polyfunctional acid


ผลการไตเตรต 25 ml ของ 0.1 M กรดอ่อน (polyfunctional acid) ชนิดต่าง ๆ ด้วย 0.1 M NaOH กรดอ่อนเหล่านี้รวมถึง Carbonic acid, Ethylene diammonium ion, Fumaric acid, Hydrogen sulfide, ฯลฯ จากรายชื่อที่ปรากฎในโปรแกรม Titration Version 3 ซึ่งให้ค่า Ka1, Ka2, และ Ka3 ไว้ด้วยครับ

ผลการไตเตรตกลุ่มที่ 1


ผลการไตเตรตกลุ่มที่ 2


ผลการไตเตรตกลุ่มที่ 3


ผลการไตเตรตกลุ่มที่ 4


กลุ่มที่ 5
ผลการไตเตรต 25 ml ของ 0.1, 0.01, 0.001, และ 0.0001 M กรดฟอสฟอรัส (Phosphorous acid) ด้วย 0.1, 0.01, 0.001, และ 0.0001 M NaOH


เพื่อน ๆ ครับกราฟที่ได้จากการไตเตรต polyfunctional acid นั้นได้จากการคำนวณอย่างเป็นขั้นตอน ด้วยวิธีการ ทางเคมี พิจารณาเป็นขั้น ๆ ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีการเติม NaOH, ก่อนจุดสมมูลหนึ่ง, จุดสมมูลหนึ่ง, หลังจุดสมมูล หนึ่ง, ก่อนจุดสมมูลสอง, จุดสมมูลสอง, และหลังจุดสมมูลสอง ซึ่งสลับซับซ้อนมาก แม้เราจะให้คอมพิวเตอร์ช่วย คำนวณแล้วก็ตาม Subroutine จะ complicate มาก

แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น !

เนื่องจากตอนนี้เรามีความสามารถที่จะแก้สมการที่มีความสลับซับซ้อน ได้ด้วยคอมพิวเตอร์ จากสมการที่ (11) และ (12)

a = K4 / (1 + K1/p + K1*K2/p2)………….(11)
p = aK1/p + 2*a*K1*K2/p2+ 1E-14/p – K5…………(12)

ขอเพียงแต่เรารู้ค่า K4 และ K5 การแก้สมการหาความเข้มข้นของโปรตอนก็จะเป็นไปได้ทันที
สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือ สร้างสมการ K4 (ได้จากสมดุลมวล) และ K5 (ได้จากสมดุลประจุ)
ที่ขึ้นกับปริมาตรของเบสแก่ หรือกรดแก่ ที่เราเติมลงไปในขวดแก้วรูปชมพู่ ถ้าทำได้การแยกกรณี ก็จะไม่จำเป็นอีกต่อไปครับ

ตัวอย่าง การไตเตรต 0.1 M คาร์บอเนตไอออน (CO32-) ปริมาตร 25 ml ด้วย 0.1 M HCl

ถ้าเราพิจารณาในแง่สมดุลมวล จะเห็นว่าปริมาณรวมของไอออนต่าง ๆ ที่ประกอบไปด้วยคาร์บอเนตนั้น จะคงที่เสมอ เพียงแต่ความเข้มข้นถูกเจือจางลงเรื่อย ๆ โดย HCl ที่เราเติมลงไป ดังนั้นความสัมพันธ์นี้ เป็นจริง
K4 = 0.1*25/(25 + V) เมื่อ V คือปริมาตรของกรด HCl ที่เติมลงไป

ในแง่สมดุลประจุ ค่า K5 แทนความเข้มข้นของประจุบวก ซึ่งลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจาก dilution และประจุ ลบที่ได้จาก HCl (Cl-) ในรูปของ Cl- ดังนั้นความสัมพันธ์นี้เป็นจริง
K5 = (2*0.1*25 – 0.1*V)/(25 + V)

เพราะเราต้องการสร้างเส้นโค้งไตเตรชั่น เรารู้ค่า V ตั้งแต่ 0 จนถึง Limit ที่กำหนด ซึ่งในกรณีนี้เรากำหนด ให้เป็นสองเท่าของปริมาตรกรดที่เติมจนได้จุดสมมูลที่สอง


Dialog box สำหรับเลือก polyfunctional base


ผลการไตเตรต 25 ml ของ 0.1 M เบสอ่อน (polyfunctional base) ชนิดต่าง ๆ ด้วย 0.1 M HCl เบสอ่อนเหล่านี้รวมถึง Carbonate ion, Ethylene diammonia, Fumarate ion, sulfide ion, ฯลฯ จากรายชื่อที่ปรากฎในโปรแกรม Titration Version 3 ซึ่งให้ค่า Kb1, Kb2, และ Kb3 ไว้ด้วยครับ

ผลการไตเตรตกลุ่มที่ 6


ผลการไตเตรตกลุ่มที่ 7


ผลการไตเตรตกลุ่มที่ 8


ผลการไตเตรตกลุ่มที่ 9


กลุ่มที่ 10
ผลการไตเตรต 25 ml ของ 0.1, 0.01, 0.001, และ 0.0001 M ซัลไฟด์ไอออน (Sulfide ion) ด้วย 0.1, 0.01, 0.001, และ 0.0001 M HCl


กลุ่มที่ 11
ผลการไตเตรต 0.1 M เบสอ่อน หรือกรดอ่อน ที่แตกตัวให้กรด หรือทำปฏิกิริยากับน้ำให้ไฮดรอกไซด์ไอออน สามครั้ง เช่น Citrate ion หรือ Phosphoric acid ปริมาตร 25 ml ด้วย 0.1 M HCl หรือ 0.1 M NaOH


กลุ่มที่ 12
ผลการไตเตรต 0.1 M Amphiprotic species (Hydrogen citrate, Dihydrogen citrate) ปริมาตร 25 ml ด้วย 0.1 M HCl หรือ 0.1 M NaOH ผลการไตเตรตของ Citrate ion และ Citric acid ถูกแสดงไว้ด้วยเพื่อเปรียบเทียบครับ


การคำนวณค่าอัลฟ่า

ในกระทู้ที่แล้วเราได้กล่าวถึงการคำนวณค่าอัลฟ่าในกรณีกรดหรือเบสอ่อน ที่แตกตัวให้โปรตอนหนึ่งครั้ง ในกรณีที่ แตกตัวได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ก็พิสูจน์ด้วยหลักการเดียวกัน ในที่สุดเราได้สูตร

อัลฟ่า 0 = [H3O+]2 / D
อัลฟ่า 1 = Ka1*[H3O+] / D
อัลฟ่า 2 = Ka1*Ka2 / D
และ D = อัลฟ่า 0 + อัลฟ่า 1 + อัลฟ่า 2
สำหรับกรดอ่อนที่แตกตัวให้โปรตอนได้สองครั้ง หรือเบสอ่อนที่แตกตัวให้ไฮดรอกไซด์ไอออนได้สองครั้ง

อัลฟ่า 0 = [H3O+]3 / D
อัลฟ่า 1 = Ka1*[H3O+] 2 / D
อัลฟ่า 2 = Ka1*Ka2*[H3O+] / D
อัลฟ่า 3 = Ka1*Ka2*Ka3 / D
และ D = อัลฟ่า 0 + อัลฟ่า 1 + อัลฟ่า 2 + อัลฟ่า 3

สำหรับกรดอ่อนที่แตกตัวให้โปรตอนได้สามครั้ง หรือเบสอ่อนที่แตกตัวให้ไฮดรอกไซด์ไอออนได้สามครั้ง

ดังจะเห็นผลลัพธ์การคำนวณใน worksheet ด้านล่างครับ


โดยสรุป เราสามารถใช้โปรแกรมศึกษาเรื่องเส้นโค้งไตเตรชั่น ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ไตเตรตกรดแก่ในขวดรูปชมพู่ ด้วยเบสแก่ในบิวเรต
(2) ไตเตรตเบสแก่ในขวดรูปชมพู่ ด้วยกรดแก่ในบิวเรต
(3) ไตเตรตกรดอ่อนที่แตกตัวได้หนึ่งครั้งในขวดรูปชมพู่ ด้วยเบสแก่ในบิวเรต
(4) ไตเตรตเบสอ่อนที่แตกตัวได้หนึ่งครั้งในขวดรูปชมพู่ ด้วยกรดแก่ในบิวเรต
(5) ไตเตรต polyfunctional acid ในขวดรูปชมพู่ ด้วยเบสแก่ในบิวเรต
(6) ไตเตรต polyfunctional base ในขวดรูปชมพู่ ด้วยกรดแก่ในบิวเรต
(7) ไตเตรต amphiprotic species ในขวดรูปชมพู่ ด้วยเบสแก่ในบิวเรต
(8) ไตเตรต amphiprotic species ในขวดรูปชมพู่ ด้วยกรดแก่ในบิวเรต
(9) ไตเตรตกรดแก่ในขวดรูปชมพู่ ด้วยเบสอ่อนที่แตกตัวได้หนึ่งครั้งในบิวเรต
(10) ไตเตรตเบสแก่ในขวดรูปชมพู่ ด้วยกรดอ่อนที่แตกตัวได้หนึ่งครั้งในบิวเรต
(11) คำนวณค่าอัลฟ่าที่เหมาะสมในกรณี (3) ถึง (10)

เนื่องจากการไตเตรตในกรณี 5 – 8 นั้นมีความสลับซับซ้อน การคำนวณจะใช้เวลานานครับ อาจถึง 15 นาที ด้วย pentium-2

ตอนนี้โปรแกรมมีความสมบูรณ์ถึงขนาดที่ใช้ประกอบการศึกษาเส้นโค้งไตเตรชั่นในระดับมัธยมปลาย และปริญญาตรีได้ครับ กรณีไตเตรชั่นด้วย polyfunctional acid, polyfunctional base, และ amphiprotic species ในบิวเรตนั้นผมไม่รวมเข้าไปด้วยเพราะถือว่าไม่สำคัญมากและไม่ใช้กันในทางปฏิบัติ อีกทั้งได้รวมเบสอ่อนและกรด อ่อนที่แตกตัวได้หนึ่งครั้งในบิวเรต เพื่อให้เห็นภาพพจน์เข้าไปแล้ว

ในเวอร์ชั่นต่อไป จะเป็นการตกแต่งเพื่อความสวยงาม (animation ตามคำแนะนำของคุณแมวเหมียวพุงป่อง) และ ทดสอบกับ indicator หลาย ๆ ชนิดครับ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน และทดลองใช้โปรแกรมครับ
………๒๕๔๗……..สุขสันต์วันปีใหม่………2004………….


หากมีข้อแนะนำกรุณาติดต่อที่อีเมลล์ : Practical_x_2@hotmail.com