"Crouching Tiger,Hidden Dragon ว่าด้วยเรื่องของกระบี่ "
"กระบี่ฟ้าบันดาล ยาวสองศอกเก้านิ้ว กว้างหนี่งนิ้ว ด้ามหนาสองจุดห้า แต่เดิมด้ามจับประดับด้วยทับทิม จากรูปลักษณ์ของกระบี่ คล้ายจิตรกรรมสมัยฉิน พอถึงยุคฮั่นก็สูญหาย"
ลักษณะภายนอกบ่งบอกกระบี่ดีกระบี่เลว หากดีแค่รูปลักษณ์ภายนอกแต่ไร้ซึ่งอานุภาพก็ไม่ใช่กระบี่ที่ดีแท้
ถึงแม้ในเรื่องจะมีฉากที่ใช้กระบี่ฟ้าบันดาลอยู่หลายฉาก แต่ตอนที่กลับได้เห็นอานุภาพที่แท้จริงของกระบี่คงเป็นฉากการต่อสู้ระหว่าง อี้จิวหลงและซื่อหลินในลานประลอง
ซื่อเหลียน ซึ่งเชี่ยวชาญอาวุธอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ซื่อเหลียนจะไม่เกรงกลัวฝีมือของอี้จิวหลง แต่กระบี่ฟ้าบันดาลนั้นยากจะเอาชนะได้ อย่างไรกระบี่นี้ถึงได้น่ากลัวนักมาดูกันฉากต่อฉากเลยดีกว่า
คุณสมบัติของกระบี่นั้น น้ำหนักเบา ผู้ใช้สามารถใช้ได้คล่องแคล่ว ยิ่งผู้ที่มีความปราดเปรียวเช่นอี้จิวหลิง ใช้กระบี่ยิ่งเหมือนเสือติดปีก อีกทั้งกระบี่ฟ้าบันดาล ที่มีความคม สามารถฟันโลหะให้ขาดได้ในครั้งเดียว การประลองครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับซื่อหลิน
แต่เจ้าสำนักคุ้มภัยสงหย่วนนั้นรู้ดีว่า ตัวเองมีพละกำลังที่เหนือกว่า จึงใช้ความได้เปรียบเลือกอาวุธที่คิดว่าสามารถต่อสู้กับกระบี่ฟ้าบันดาลและอี้จือหลิงได้
อย่างแรก คือ อาวุธคู่กาย ดาบคู่ ที่มีดีที่ความหนักหน่วง ยิ่งมีดาบสองเล่มยิ่งเพิ่มโอกาสการจู่โจมคู่ต่อสู้ ซื่งพละกำลังอย่างซื่อหลินสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ความคล่องแคล่วคงไม่เทียบกับกระบี่เป็นแน่ ยิ่งเป็นกระบี่ฟ้าบันดาลด้วยแล้วดาบคู่จึงไม่สามารถต้านทานได้
ทวนคืออาวุธที่สอง ที่ถูกเลือก ทวนก็เป็นอาวุธที่ว่องไวเช่นกัน แต่ได้เปรียบที่มีความยาว ผู้ใช้สามารถเห็นเป้าหมายได้ชัด และสามารถโจมตีจุดอ่อนที่เห็นได้ง่ายกว่า ด้วยความรวดเร็ว อีกทั้งเป็นลักษณะกึ่งพลองจึงสามารถใช้ฟาดคู่ต่อสู้ได้ด้วย แต่เสียดายที่ด้ามทวนนั้นทำจากไม้ ไฉนเลยจะรอดพ้นคมกระบี่ ที่เมื่อประชิดผู้ใช้ทวนก็สามารถฟันด้ามให้ขาดเป็นสองท่อนได้
ดาบตะขอคู่ ลักษณะเป็นดาบ แต่ปลายจะโค้งลงมาคล้ายตะขอ ที่ใช้เหนี่ยวอาวุธคู่ต่อสู้ ไม่ให้ใช้ได้ถนัด ทำให้เสียจังหวะ เพื่อตัดกำลังและลดความรวดเร็วของกระบี่ เช่นกันตะขอใดก็ไม่สามารถเหนี่ยวรั้งคมกระบี่ฟ้าบันดาลได้
ซื่อหลินพยายามจะใช้ง้าวเหล็กวงพระจันทร์ที่อีกด้านเป็นมีดเหล็ก แต่ยกไม่ไหวเพราะหนักเกินกำลัง
จึงหันมาเลือกกระบองทองเหลือง ที่มีความยาวเท่าดาบ แต่น้ำหนักจะหนักกว่า กระบองที่มีเนื้อเป็นแท่งทองเหลืองตัน มีหนามคมโดยรอบ ไว้ใช้ฟาดคู่ต่อสู้ ที่พื้นปูนยังยุบ ถ้าเนื้อคนโดนเข้าคงระบมไปหลายวัน ถึงแม้จะช้ากว่ากระบี่มากแต่เมื่ออี้จิวหลิงโดนเข้าไปหลายกระบวนท่า ก็มือไม้สั่นแทบต้านไม่อยู่
แต่ กระบองทองเหลืองเองก็เป็นรอยที่เกิดจากคมกระบี่ฟ้าบันดาล เมื่อเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ฟันกระบองหลายๆครั้ง กระบองที่ว่าแข็งก็ไม่อาจต้านทานคมกระบี่ฟ้าบันดาลถึงกับขาดสองท่อน
แล้วจะเอาอะไรมาสู้ดี ? อันว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง กระบี่ต้องเจอกระบี่ อาวุธที่ซื่อหลินถนัดคือ ดาบคู่ จึงเลือกกระบี่ที่ใหญ่กว่ากระบี่ฟ้าบันดาล ถึงแม้จะไม่คมเท่าแต่ความรวดเร็วก็ใกล้เคียงกัน และความหนักหน่วงเทียบเท่ากับดาบที่ถนัดอีกด้วย กระบี่ฟ้าบันดาลช่วยอี้จือหลิง มาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้พิสูจน์ได้ว่าซื่อเหลี่ยนคือผู้รู้ซึ้งถึงปรัชญาแห่งอาวุธอย่างแท้จริง
แต่อานุภาพของกระบี่ประดุจฟ้าบันดาลเช่นนี้ ใครเล่าจะไม่หลงไหล
"กระบี่อยู่ได้เพราะคนใช้ เพลงกระบี่ขึ้นอยู่กับคน"
กระบี่นั้นมีสองคม ถ้าคุมกระบี่ไม่ได้ ก็จะถูกกระบี่ควบคุม และใช้ไปในทางที่ผิดเป็นทาสของกระบี่ไป
"ไม่รู้ ไม่สู้ ไม่ต้าน ไม่เปลี่ยน ไร้การควบคุม ปล่อยวางตัวตนเพื่อหาธาตุแท้"
จึงไม่อาจเป็นหลักการใช้กระบี่ได้
"คมกระบี่อยู่ที่ใจ ไม่ใช่ที่กำลัง"
หลี่มู่ไป๋ ถึงแม้ไม่ถือกระบี่ แต่ใจกลับมีกระบี่แล้ว!!!
หรือการควบคุมกระบี่คือการควบคุมจิตใจตนอง เมื่อคุมได้แล้วจึงคุมกระบี่ได้
หรือนี่คือปรัชญาของกระบี่กันแน่?