ถ้าใครได้ดู The Sixth Sense แล้วละก็คงจะตามมาดูเรื่องนี้อีกเป็นแน่ คงกะว่าพี่ Samalan แกจะพลิกแพลงอีท่าไหนอีก
ส่วนตัวผมว่าหนังเรื่องนี้ดูสนุกดีนะ ถึงเพื่อนผมบอกว่ามันออกจะเฉื่อยๆแล้วก็เนื้อเรื่องไม่มีอะไรก็เถอะ
M. Night Samalan นี่ชอบหลอกล่อคนดูเหมือนปรมาจารย์หนัง Alfred Hitchcock อย่างที่ผมและใครหลายคนเคยหัวทิ่มมาแล้วตอนดู
The Sixth Sense
ดูแรกๆกะว่า Unbreakable คงเป็นหนังแนวลึกลับผีสาง เพราะไม่ได้อ่าน review ที่ไหนมาก่อน พอเจอตอนแรกก็งงเหมือนกันว่า
มันไปเกี่ยวกับสถิติหนังสือการ์ตูนได้ไง ดูไปเรื่อยๆอีกจนถึงบางอ้อว่าที่แท้หนังเรื่องนี้เอา theme ของหนังซุปเปอร์ฮีโรมาใช้นั่นเอง
หนังพยายามจับลักษณะของหนังแนวซุปเปอร์ฮีโรมาใช่ พวก ซุปเปอร์แมน แบทแมน อะไรประมาณนั้น แล้วนำมาเล่าด้วยวิธีการแบบดราม่า
ซึ่งปกติติต้องเป็นแบบ Action Fantasy ซะส่วนใหญ่ โดยหลอกข้าพเจ้าไขว้เขวไปจนเกือบจบเรื่อง ซึ่งลักษณะเด่นของหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร
ที่อาจจะพอมองได้ว่าเป็น Genre ของหนังอีกประเภทนึงเพราะลักษณะร่วมค่อนข้างชัดเจน อย่างเช่นพลังพิเศษของซุปเปอร์ฮีโร
ที่ยอดมนุษย์แต่ละคนก็จะมีพลังพิเศษไม่เหมือนกัน และก็ซุปเปอร์ฮีโรเหล่านี้จะต้องมีหน้าที่คอยปกป้องคนดีจากคนชั่ว ซุปเปอร์ฮีโรอาตจะมีจุดอ่อน
ที่มักจะถูกเล่นงานโดยศัตรูตัวร้ายเสมอ ส่วนใหญ่ยอดมนุษย์จะมีชีวิตที่โดดเดี่ยวเนื่องจากไม่สามารถเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของตัวได้
ส่วนตัวผู้ร้าย จะต้องมีพลังพิเศษหรือ บุคคลิกบางอย่างที่พิสดาร ตัวร้ายจะต้องมีจุดประสงค์ที่จะทำลายความสงบสุขของชาวโลกเป็นสำคัญ
ก็คร่าวๆครับเท่าที่นึกออกใครพอจะรู้บ้างก็ใส่เติมเอาเองละกัน Unbreakable ก็เช่นกันมีลักษณะร่วมในกลุ่มหนังประเภทนี้ แต่ที่ต่างจนผมรู้สึกได้ชัดเจนคือ
ทำไมมันถึงได้ดูไม่เหมือนหนังการ์ตูนซักเท่าไร? ก็เพราะวิธีการเล่าเรื่องที่ใช้อารมณ์แบบ Drama เป็นสำคัญ ไม่เน้นฉากที่ดูตื่นตาตื่นใจ
ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ดูเป็นหนังการ์ตูนที่ทำให้ยอดมนุษย์ของเราดูธรรมดาที่สุด ตอนที่ลูกชายของบรูซ จะทดสอบพ่อตัวเองโดยใช้ปืนยิงนั้น
จะตลกก็ตลกไม่ออกครับ เพราะผมเองไม่อยากจะเดาเลยว่าผลจะเป็นอย่างไร เพราะหนังมันบอกเรามาอย่างนั้นตั้งแต่แรกโดยถ้าให้น้ำหนักของด้าน
คนธรรมดากับยอดมนุษย์แล้ว พระเอกเราดูจะเหมือนคนปกติมากกว่า จะเห็นว่าหนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ สมัยนี้จะเน้นให้ Character ของ
พระเอกเราดูมีเหมือนคนมากขึ้นลองนึกๆดูคงตั้งแต่ Batman ของ Tim Burton ละมั้ง เปรียบเทียบกับหนังคาวบอยยุคนี้ ปู่คลินท์ ใน Unforgiven
ก็พี่บรูซใน Unbrakable นี่เอง ที่คาวบอยและซุปเปอร์ฮีโรผู้ตกอับของเราต้องพิสูจน์ปมอะไรบางอย่างค้างคาอยู่ในใจ
ส่วนตัวร้ายของเรา MR. Glass ฉายาที่มาจากปมด้อยของเขา ทำให้เป็นแรงผลักดันให้เกิดเรื่อง Unbreakable ขึ้นมา
ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นเหมือนผู้ที่ค้นพบซุปเปอร์ฮีโรและช่วยเหลือพระเอกของเราเหมือน ดร.ซาเวียร์ ในเรื่อง X-MEN
นี่แหละครับที่ว่าพลิก แต่กลับมากลายเป็นตัวร้ายไปได้ และในตอนนั้นเพิ่งรู้สึกว่าหนังที่ข้าพเจ้าได้ดูมาจนจะจบนั้น คือหนังประเภทเดียวกับ
Batman หรือ X-MEN เพราะมันช่วยเติมเต็มในส่วนของตัวผู้ร้ายให้ครบนั่นเองครับ
หนังเรื่องนี้เด่นการผสมผสานการเล่าเรื่องแบบ Dramatic และหนังการ์ตูน ที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ ถ้ามองว่าเป็นหนังการ์ตูนมันคงเป็นหนังการ์ตูน
ที่เด็กดูแล้วคงไม่สนุกเท่าไร เพราะมันหม่นหมองเหลือเกิน