Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!


 

ม้วนหนังสือแห่งทะเลตายช่วยให้เห็นภาพสมัยพระเยซู 
โดยปีเตอร์ ชีอาน


 เมื่อนักวิชาการศึกษาหนังสือม้วนแห่งทะเลตาย 
(Dead Sea Scrolls) มากขึ้น ภาพของสังคมใน
สมัยพระเยซูคริสต์ ก็เปลี่ยนไปมากยิ่งขึ้น ม้วนหนังสือต่างๆ 
และชิ้นส่วนจำนวนมากที่ถูกค้นพบในถ้ำและบริเวณอื่นๆ 
รวมเจ็ดแห่งที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลตาย 
ในระหว่างปี ค.ศ.
1947 และ 1956 นั้นช่วยให้เราได้
รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับพระคัมภีร์นักวิชาการด้านพระ-
คัมภีร์คนหนึ่งชี้ให้เห็นว่าการค้นพบที่ได้รับจากม้วนหนังสือ
แห่งทะเลตายช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดของคริสเตียนเกี่ยว
กับพวกฟาริสีและกลุ่มชนต่างๆของสังคมยิวในสมัยที่
พระเยซูทรงกระทำภาระกิจอยู่ผู้อ่านพระกิตติคุณส่วนใหญ่
่เข้าใจว่าพวกฟาริสีนั้นเป็นกลุ่มที่มักตีความกฎบัญญัติของ
พระคัมภีร์อย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษแต่ดร.เจ็มส์ แวนเดอร์คาม
 ที่เป็นศาสตราจารย์ในคณะศาสนศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย 
นอทเทอร์ดาม ซึ่งเขียนหนังสือชื่อว่า "การแนะนำม้วนหนังสือ
แห่งทะเลตาย" กล่าวว่า "พวกเอสเส็นส์
(Essense)
 ซึ่งเป็นกลุ่มของชาวยิวที่แยกตัวจากสังคมกลับมองพวก
ฟาริสีด้วยสายตาที่แตกต่าง พวกเอสเส็นส์ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มชน
สามกลุ่มใหญ่ของสังคมยิวในสมัยของพระเยซู และไปในแนว
เดียวกับพวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์นั้น มักจะเรียกพวก
ฟาริสีว่า "พวกที่ชอบเสาะหาสิ่งที่สะดวกสบาย" หรือ "
ชอบหาทางออกแบบง่ายๆ"เขายังกล่าวอีกว่า"หนังสือม้วน
เหล่านี้ที่เป็นข้อเขียนร่วมสมัยของพระคัมภีร์ใหม่ได้ช่วย
ให้เราเกิดความเข้าใจในด้านสภาพสังคมของคริสเตียนใน
ยุคแรกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยที่หนังสือเหล่านี้เผย
ให้เราเห็นชุมชนของชาวยิวกลุ่มหนึ่งรวมทั้งวิถีชีวิต 
และทัศนคติของพวกเขา" ฉะนั้น  พวกเอสเส็นส์ที่มีความ
หวังในการเสด็จมา ของพระเมสสิยาห์เช่นเดียวกับชาวยิว
อื่นๆจึงเลือกที่จะอยู่แบบแยกตัวจากสังคมในระหว่างการ
รอคอยการมาของพระองค์ พวกเขาจะเห็นด้วยกับการตี
ความกฎบัญญัติอย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษ ในกิตติคุณได้บันทึก 
เรื่องหนึ่งที่พวกฟาริสีไม่พอใจที่พระเยซูรักษาชายมือลีบ
ในวันสะบาโตโดยกล่าวหาว่าพระองค์ทำงานในวันสะบาโต 
พระเยซูทรงย้อนถามว่าพวกเขาจะช่วยแกะที่ตกลงในบ่อน้ำ
ในวันสะบาโตไหม ถ้าพวกเขาช่วยสัตว์ตัวหนึ่ง การช่วยคน
ในวันนั้นก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ใช่หรือ ในมัทธิวและกิตติคุณ
อื่นบันทึกว่าพวกเขาก็ออกไปและวางแผนต่อต้านพระเยซู 
ดร. เจมส์กล่าวว่าข้อเขียนของกลุ่มเอสเส็นส์ทำให้เห็นว่า
พวกเขายึดถือการตีความกฎบัญญัติที่เคร่งครัดยิ่งกว่านั้นอีก
 ม้วนหนังสือม้วนหนึ่งเขียนเกี่ยวกับเรื่องกฎเกณฑ์ว่า
 "ห้ามใครเอาใจใส่เด็กที่ถือของหนัก และเดินไปมาใน
วันสะบาโต" และยังเขียนอีกว่า "ห้ามใครช่วยสัตว์ในการ
ออกลูกในวันสะบาโต และหากมันตกลงไปในบ่อน้ำหรือ
ในหลุม ห้ามใครดึงมันขึ้นมาในวันสะบาโต" นี่เป็นเพียง
หนึ่งใน
850 ข้อความ ที่ปรากฏในหนังสือม้วนแห่งทะเล
ตายที่ถูกค้นพบในแหล่งหนึ่งที่เชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางของ
ชุมชนเอสเส็นส์ พวกเอสเส็นส์ไม่ถูกกล่าวถึงอย่างชัดเจน

 

  

 

ในพระคัมภีร์ใหม่ แต่ถูกกล่าวถึงในข้อเขียนอื่นๆ เช่น
ข้อเขียนของโจซีฟัส นักประวัติศาสตร์ชาวยิวในศตวรรษแรก
 นักวิชาการบางคนคาดเดาว่ายอห์น ผู้ให้บัพติศมาก็อยู่ใน
กลุ่มเอสเส็นส์ด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่เราได้รับ
 จากสำเนาต้นฉบับแห่งทะเลตายต่อการศึกษาพระคัมภีร์เดิม
คือหลักฐานเกี่ยวกับสำเนาต้นฉบับ
(textual evidence) 
ของหนังสือต่างๆในพระคัมภีร์ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย 
รวมทั้งการย้อนยุคกลับไปในอดีตมากที่สุดเท่าที่เราทำได้" 
ดร. เจ็มส์กล่าว หนังสือม้วนแห่งทะเลตายนั้นมีม้วนหนังสือ
ที่เกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์เดิมประมาณ
202 ม้วน รวมทั้ง
สำเนาต้นฉบับฮีบรูที่เก่าแก่มากของหนังสือต่างๆในพระคัม-
ภีร์เดิม ดร. เจ็มส์ กล่าวอีกว่า "ข้อสรุปประการหนึ่งจาก
หลักฐานเหล่านี้ที่อาจกล่าวได้คือ ฉบับแปลกรีกต่างๆ 
ของพระคัมภีร์เดิมที่แปลในระยะหลังซึ่งเคยคิดว่ามีข้อ
ผิดพลาดในการแปลอยู่มากนั้น แท้จริงเป็นการแปล
อย่างถูกต้องของต้นฉบับฮีบรูที่แตกต่างกันแม้เป็นหนังสือ
เล่มเดียวกันของพระคัมภีร์เดิมนอกจากนั้นก็คือหนังสือ
ม้วนหนึ่งบันทึกเรื่องราวหนึ่งในหนังสือโยชูวาไว้ในบท
และข้อที่ต่างจากสำเนาต้นฉบับพระคัมภีร์ที่มีมาก่อน 
นอกจากนี้ยังมีเนื้อความย่อหน้าหนึ่งใน
1 ซมอ. 
ที่อยู่ระหว่างบทที่
10 และบทที่ 11 ที่ไม่ปรากฏใน
สำเนาต้นฉบับต่างๆที่มีอยู่แล้ว" เขายังกล่าวว่า
 "มีหลักฐานอีกชิ้นที่ยังคงมีการถกเถียงกันอย่างมาก
เกี่ยวกับสดุดีอีก
9 บทที่ปรากฏรวมอยู่ในหนังสือสดุดี 
150 บทที่มีมาแต่เดิม"ม้วนหนังสือยังช่วยให้เห็น 
หลักฐานการยอมรับสิทธิอำนาจของหนังสือผู้เผย
พระวจนะต่างๆที่บางกลุ่มไม่ยอมรับว่ามีความเท่าเทียม
กับเบญจบรรณที่ประกอบกันขึ้นเป็นธรรมบัญญัติ
 (Torah) แม้มักจะมีการพูดถึงความต่างกันของ
สำเนาต้นฉบับของหนังสือต่างๆ ในพระคัมภีร์อย่าง
ง่ายดาย ดร. เจ็มส์ อธิบายว่า "ม้วนหนังสือเหล่านี้ทำ 
ให้เห็นว่าสำเนาต้นฉบับมากมายที่มีอยู่นั้นล้วนแต่มี
ความน่าเชื่อถื่อในการคัดลอกที่สูงมาก" เขายังคาด
คิดว่า "หลังจากได้มีการถกเถียง มีการค้นคว้าทาง
วิชาการและมีเรื่องอื่นๆมากขึ้น จำนวนม้วนหนังสือ
เหล่านี้จะถูกแปลออกมามากยิ่งขึ้น" มีนักวิชาการ
ประมาณ
50 คนที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานนานา
ชาติซึ่งกำลังทำหน้าที่จัดทำและพิมพ์เนื้อหาที่เป็น
ฉบับทางการของหนังสือม้วนเหล่านี้ และจำนวน
เล่มที่ผลิตออกมาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อเขียน 
ที่มีความสำคัญรองลงของม้วนหนังสือก็มีปริมาณ
 มากถึงขั้นที่อาจไม่มีใครสามารถอ่านได้หมด 
แม้ว่าจะเป็นเพียงเนื้อหาส่วนที่เกี่ยวข้องเฉพาะกับ
พระกิตติคุณซึ่งได้พิมพ์ออกแล้ว บรรณานุกรมเล่ม
หนึ่งที่เป็นรายชื่อหนังสือที่เกี่ยวกับม้วนหนังสือแห่ง
ทะเลตายก็มีความหนานับร้อยหน้า ม้วนหนังสือเ
หล่านี้ก็ทำให้เกิดการเดาสุ่มแบบไร้หลักการและเหตุผล
ด้วย รวมทั้งมีรายงานชิ้นหนึ่งที่กล่าวหาว่าเหตุที่การ
จัดพิมพ์ล่าช้าเพราะกลัวว่าจะทำให้ความน่าเชื่อถือ
ของศาสนาคริสต์ลดน้อยลงไป แต่ดร. เจ็มส์กล่าวว่า 
"ข้าพเจ้ายินดีที่จะรายงานว่าไม่เป็นความจริงตามท
ี่กล่าวหา" (บทความนี้แปลจากเรื่อง
Dead Sea 
Scrolls Shed Light on World of 
Jesus ในหนังสือ RECORD ของสมาคม
คริสตธรรมอเมริกัน)

ที่มา : เวบไซต์ของสมาคมพระคริสตธรรม

 

 

 

  

 

  

 


GUEST BOOK / WEB BOARD / SHARE&CARE / KIDS CENTER / FAMILY / COMPOSITION / PRAY CENTER / BIBLE STUDY /ARTICLES /
   MALL CENTER / NEWS / PICTURES / CONTACT US / WEB LINKS / PRAISE&WORSHIP/ HOME