ทะเลสาบกาลิลี:
สาวกสี่คนของพระเยซู
เป็นชาวประมงจากแคว้นกาลิลี
และ
พระองค์ทำพระราชกิจส่วนใหญ่ในแถบนี้
นาซาเร็ธ:
พระเยซูทรงเจริญวัยที่นี่ |
|
แกะรอยพระเยซู
พระกิตติคุณลูกากล่าวว่าพระเยซูประสูติในสมัยที่จักรพรรดิออกัสสั่งให้
สำรวจสำมะโนครัวทั่วจักรวรรดิโรมัน
เป็นปลายรัชสมัยเฮโรดมหาราช
แม้โยเซฟกับมารีย์บิดามารดาของพระเยซูจากนาซาเร็ธ
แต่พระเยซูทรง
บังเกิดที่เบธเลเฮม
บ้านเกิดของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษผ้โด่งดัง
พระกิตติคุณระบุชัดว่า
ทารกที่เกิดในครอบครัวสามัญชนนี้คือพระเมสสิยาห์หรือ
พระคริสต์
ผู้ที่
พระเจ้าทรงสัญญาไว้นมนานมาแล้วว่าจะมาช่วยกู้ประชากรของพระองค์
ชาวยิวหลายคนตั้งตาคอยและพร้อมจะต้อนรับพระองค์แม้จะมิใช่กษัตริย์
ในลักษณะที่พวกเขาฝันเอาไว้
ช่วงเยาวัยพระเยซูอยู่ที่อียิปต์
เพื่อหนีจากเงื้อมมือของกษัตริย์เฮโรดผู้
โหดเหี้ยม
เมื่อเฮโรดสิ้นชีวิต
ครอบครัวของพระองค์ก็หวนคืนนาซาเร็ธ
และใช้ชีวิตสงบเงียบ
ซึ่งเหตุการณ์สำคัญที่สุดของแต่ละปี
คือการไป
ฉลองเทศกาลปัสกาที่เยรูซาเล็ม
เมื่อพระเยซูพระชนมายุได้
12 พรรษา
มารีย์กับโยเซฟก็พาพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็มเป็นครั้งแรก
ในปีที่ 15 ของจักรพรรดิทิเบริอัส
ราว ค.ศ. 27 พระเยซูเริ่มพันธกิจ
พระองค์ตามฝูงชนไปหายอห์นผู้ให้บัพติศมาริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน
แม้จะปราศจากบาปแต่พระองค์ก็รับบัพติศมาจากยอห์นเพื่อประกาศ
ว่าพระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชนการอดอาหารและถูก
ทดลอง สี่สิบวันในถิ่นทุรกันดารปูทางให้พระเยซูพร้อมที่จะเริ่มต้น
ชีวิต
ใหม่ที่กาลิลีในฐานะบรมครูผู้เดินทางไปทุกหนทุกแห่ง
ไม่นานก็มีกลุ่มสาวกติดตามพระองค์
และพระองค์ได้เลือก
12คนเป็น
เพื่อนร่วมเดินทาง
นับแต่นั้นมาจนกระทั่งสิ้นพระชนม์(ประมาณ
3 ปี)
พระเยซูใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสาธารณชน
พระองค์ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในแถบทะเลกาลิลี
แต่ก็ไปเยรูซาเล็มบ่อยๆ
โดยเฉพาะในเทศกาลสำคัญอย่างน้อยมีครั้งหนึ่งพระองค์เลือกใช้เส้นทาง
ผ่านสะมาเรีย(แทนที่จะอ้อมไป) พระองค์ได้ขึ้นเหนือถึงซีซารียาฟิลิปปี
ใกล้เชิงเขาเฮอร์โมน
พระกิตติคุณบันทึกสถานที่หลายแห่งที่พระเยซูแวะ
ไป
แต่เราไม่รู้แน่ชัดว่าไปที่ไหนก่อนหลัง(ดูแผนที่)
อาจเป็นฤดูใบไม้ผลิในปี
ค.ศ. 30 ที่พระเยซูไปเยรูซาเล็มเป็นครั้งสุด
ท้ายเพื่อร่วมฉลองเทศกาลปัสกากับสาวกสิบสองคนในเวลานั้นยอมรับ
กันว่าพระองค์เป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ห่วงใยประชาชนและได้สร้าง
ความประหลาดใจให้กับฝูงชนที่ติดตามพระองค์โดยการรักษาโรคแบบ
อัศจรรย์นับครั้งไม่ถ้วน
สาวกทั้งสิบสองคนสดับตรับฟัง
และเฝ้าจับตา
ดูเหตุการณ์ต่างๆมีสามคนในพวกเขาเห็นพระองค์จำแลงพระกายด้วย
พระสิริบนภูเขาที่กาลิลี
จึงมั่นใจว่าพระเยซูคือ
พระเมสสิยาห์ผู้นั้น
แต่การต่อต้านรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเพราะถ้อยคำแบบขวานผ่าซากของพระ
องค์ที่ทิ่มแทงใจพวกผู้นำศาสนาโดยเฉพาะคำกล่าวอ้างที่ว่าพระองค์มี
ฐานะเท่าเทียมกับพระเจ้าซึ่งเกินขอบเขตที่ใครจะพูดได้ไม่ว่าจะเป็น
ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม
"เขาอ้างว่าเขายกความผิดบาป
ให้ได้มิใช่หรือ
เขาบอกว่าเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระเจ้าพระบิดา
มิใช่หรือ"
และการต่อต้านได้พุ่งขึ้นถึงขีดสุดในสัปดาห์สุดท้ายที่กรุงเยรูซาเล็มนั้น
ยูดาสหนึ่งในสาวกสิลสองคนวางแผนทรยศจนพระองค์ถูกจับกุมในค่ำ
คืนหนึ่ง
และสภายิวก็ตัดสินคดีนี้จากข้อหาเท็จที่พวกพยานปั้นเรื่องขึ้น
พอฟ้าสางเจ้าเมืองปอนทิอัส
ปีลาต
ชาวโรมันเกรงว่าจะเกิดจลาจล
จึง
อนุญาตให้ประหารพระเยซู
ที่เนินเขานอกกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม
พระเยซูสิ้นพระชนม์ในฐานะ
อาชญากรบนไม้กางเขน(เหมือนโจรสองคนที่ตายพร้อมกับพระองค์)
สาวกต้องรีบฝังพระศพพระเยซูเพื่อจะไม่ละเมิดกฎสะบาโต
แต่เช้าตรู่วันอาทิตย์
พวกผู้หญิงที่มาชโลมพระศพพบว่า
อุโมงค์ฝังพระศพ
นั้นว่างเปล่า
พระศพสูญหายไป
แต่ก่อนวันนั้นจะสิ้นสุดลงสาวกหลายคน
ได้เห็นพระเยซูผู้ทรงพระชนม์อยู่
ข้อมูลจาก
เจาะโลกพระคัมภีร์
เล่ม 2 โดย
ขณะผู้เชียวชาญของไลอ๊อนส์
GUEST
BOOK / WEB
BOARD / SHARE&CARE / KIDS CENTER
/ FAMILY / COMPOSITION /
PRAY CENTER /
BIBLE STUDY /ARTICLES /
MALL CENTER
/ NEWS / PICTURES
/ CONTACT US / WEB LINKS
/PRAISE&WORSHIP/ HOME
|
|
![](images/map1.jpg)
|