1794 | Spellanzini | สังเกตค้างคาวบินได้เร็วในความมืด ไม่ชนสิ่งกีดขวาง โดยอาศัยเสียงดัวเองบอกทาง |
1880 | Pierri & Jaeques Curio | ค้นพบผลึกสสาร บางชนิดมีคุณสมบัติเป็น Piezoelectric Effect คือสั่นสะเทือนได้เมื่อผ่านกระแสไฟฟ้า |
1919 | Nicolson | รายงานคุณสมบัติทาง Piezoelectric Effect ของผลึก Composite Roch Chelle Salt. |
Lanqebin(ชาวฝรั่งเศส) | เป็นคนแรกที่ใช้เสียงความถี่สูงให้เป็นประโยชน์โดยใช้ Quartz, Lead Zirconate Tetanate, Barium Titanate. หาวัตถุใต้น้ำลึก ๆ และรายงานว่า ถ้าใช้เสียงความถี่สูง ๆ นาน ๆ จะฆ่าสัตว์น้ำเล็ก ๆ ได้ | |
1933 | Szent gyorgyi | อธิบายผลของเสียงความถี่สูงต่อเนื้อเยื่อ |
1942 | Firestone | นำมาใช้ใน โรงงานอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรก ตรวจหา ความผิดปกติ ในเนื้อโลหะ โดยใช้หลักการ pulse echo ultrasound (ใช้ความถี่สูง-ความเข้มต่ำ) | Dussile | นำมาใช้ในทางการแพทย์ เพื่อดู Soft tissue ซึ่ง x-ray ทำไม่ได้ |
1952 | Howry | ใช้ compound scanning (หัวตรวจเคลื่อนไปตามแกน) ผู้ป่วยแช่ในน้ำ ให้ภาพแบบ See-through ไม่ใช่ Reflect แบบปัจจุบัน |
Wild & Reid | ใช้ A & B mode ตรวจเต้านมที่แช่ในน้ำ | |
1954-1955 | Prof.Ian Donald(สูติ-นารีแพทย์เมือง Glasgow สก๊อตแลนด์) | ใช้ A mode ตรวจถุงน้ำในรังไข่ น้ำในช่องท้อง, ครรภ์แฝดน้ำ |
1957 | Donald & Brown | สร้าง B mode-contact compound scanner หัวตรวจห้อยมาสัมผัสบริเวณอวัยวะที่ต้องการตรวจ |
1960 | Weill Hollander และ Rotten meier | เขียนบทความเกี่ยวกับ Real Time จึงทำให้ Real time เป็นที่รู้จักในเยอรมันและฝรั่งเศส |
1965 | Dr.Wernher Buschmann (จักษุแพทย์ เยอรมัน) | สร้าง Electronic Transducer Real time ติดที่ยึดโค้งตามกระบอกตานำมาใช้ใน Clinic |
1967 | Seimens บริษัทในเยอรมัน | ผลิต Real time ใช้หัวหมุนในน้ำ เสียงสะท้อนกระจกผ่านถุงน้ำสู่อวัยวะ ใช้ดูหัวใจ, การเคลื่อนไหวของเด็กในครรภ์ เรียก Vidoson scan ได้ 15 ภาพ/sec |
1974 | ADR บริษัทในอเมริกา | ผลิต Real time แบบ Linear array มีเส้นในหัวตรวจ 64 เส้น |
Criffith & Henry | ค้นพบ Mechanical Sector Scan มีประโยชน์มาก ในการตรวจหัวใจ | |
1969 Kossoff | ชาวออสเตรเรีย | ค้นพบ Gray Soale ให้เห็นความแตกต่าง ของเนื้อเยื่อ ที่มีความหนาแน่นต่างกัน |
1974 | - | พัฒนา Gray scale จนใช้ได้ดีในปลายปี (พอดีกับ CT เข้ามาในวงการแพทย์) |
1976 | - | มี Real time ระบบ pulsed array |
Kossoff & เพื่อน ๆ | สร้าง Automated system โดยใช้หัวตรวจ 8 หัวในตู้น้ำ ซึ่งตัดปัญหา ความไม่ชำนาญของผู้ตรวจ วิวัฒนาการ & computer วัดระยะทางได้แม่นยำ วัดเนื้อที่เทียบความหนาแน่น ของเนื้อเยื่อ |
อุลตราซาวด์ เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในด้านการแพทย์ ทั่งทาง Surgery, Therapy และ Diagnosis โดยเฉพะทาง Diagnosis นั้นเป็นที่นิยมทั่วไปทั้งนี้เพราะ
1. ไม่ก่อให้เกิดอันตรายจากรังสี จึงปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย โดยเฉพาะเด็กและหญิงมีครรภ์ รวมทั้ง ผู้ควบคุมเครื่องอุลตราซาวด์ด้วย ฉะนั้นการตรวจจึงทำได้บ่อยครั้ง เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลง
ของโรคเป็นระยะๆ หรือ ภายหลังการผ่าตัด แม้กระทั่ง ติดตามการเจริญเติบโต ของทารกในครรภ์
2.การตรวจทำได้ง่าย สะดวย และรวดเร็ว ไม่ยุ่งยากในการเตรียม ผู้ป่วยจึงไม่มีปัญหาต้องดมยา หรือ Sedate ในเด็ก หรือ ผู้ป่วยที่ไม่ให้ความร่วมมือ การตรวจใช้เวลาสั้น ๆ โดยตรวจอย่างละเอียด ใช้เวลาไม่ถึงกี่ครึ่งชั่วโมง ฉะนั้น จึงสามารถตรวจผู้ป่วยได้จำนวนมากในแต่ละวัน
3.ไม่ก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนไม่เกิดบาดแผลหรือการเจ็บปวดทรมานทั้งนี้เพราะการตรวจ
ด้วยอุลตราซาวด์ ไม่จำเป็นต้องฉีดสารใด ๆ เข้าร่างกาย เพื่อช่วยในการตรวจ
4.ตรวจได้เกือบทุกอวัยวะในร่างกาย ที่เป็นเนื้อเยื่อ (Soft timssue) และ ตรวจได้ทุกระนาบ ได้แก่
Transverse, Longitudinal, oblique แม้ผู้ป่วยจะอยู่ใน position ใด เช่น Supine, Prone, Upright, Decubitus.
สามารถทำการตรวจได้ ในบางครั้งการตรวจอาจจำเป็นต้องเปลี่ยน position ของผู้ป่วยบ้าง ก็ทำแต่เพียง
เล็กน้อยไม่ยุ่งยากสำหรับผู้ป่วยเลย
5.ภาพอุตราซาวด์ แสดงเนื้อเยื่อชนิดต่าง ให้เห็นรายละเอียดภายในเนื้อเยื่อ และ ขอบเขตที่แยก
จากกันชัดเจน
โดยทั่วไปการ Request ผู้ป่วยมาตรวจด้วยอุลตราซาวด์นั้นเพื่อ
1. ดูความผิดปกติทั่ว ๆ ไป
2. เพื่อ comfirm กับการตรวจทาง clinical ว่าพบ Mass
3. Mass ที่พบเป็นส่วนของอวัยวะใด หรือ ติดต่อกับอวัยวะใดบ้าง
4. เพื่อดู Mass ที่พบว่าเป็น Mass ประเภทใด ได้แก่
ข้อเสียเปรียบของการตรวจด้วยอุลตราซาวด์
1. การตรวจจะให้ภาพที่มีคุณค่าในการวินิจฉัยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้เครื่องดังนี้