|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Aloe barbadensis Mill. , (Syn. Aloe vera L.) |
วงศ์ |
LILIACEAE |
ชื่ออื่น ๆ |
ว่านไฟไหม้ หางตะเข้ |
ลักษณะของพืช |
เป็นพืชล้มลุกที่มีส่วนของลำต้นสั้น เห็นแต่ใบที่อวบน้ำ
เรียบสลับซ้อนกันอยู่ ใบหนาสดและอวบน้ำรูปร่างยาวปลายเรียวแหลม โคนใบกว้าง
67 ซม. ใบยาว 3050 ซม. ด้านบนใบมีลักษณะแบนกว่าด้านใต้ใบ ริมใบมักมีหนามเล็ก
ๆ ภายในใบมีน้ำยางสีขาวอมเหลือง ดอกสีเหลืองเป็นช่อยาว 6090 ซม. แต่ละดอกมีขนาด
กว้าง 7 ซม. ยาว 23 ซม. |
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
ใบสด |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
ใช้แก้พิษไฟๆไหม้หรือน้ำร้อนลวกโดยใช้ในปัจจุบันพยาบาลเฉพาะรายที่มีแผลเล็กน้อย
พิษไม่รุนแรงและผิวหนังไม่แตก วิธีใช้ ตัดใบสด ๆ ขูดน้ำเมือกและวุ้นที่อยู่ภายใน
นำมาทาหรือพอกบริเวณที่เป็น ทิ้งไว้ให้แห้งทำติดต่อกันทุกวัน |
การขยายพันธุ์ |
ใช้หน่อ |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
ขึ้นได้ในดินทั่ว ๆ ไปที่มีการระบายน้ำได้ดี และดินมีความสามารถอุ้มน้ำได้ดีพอสมควร
|
การปลูก |
ใช้หน่อที่เจริญเติบโตจากต้นแม่พันธุ์ที่บริเวณคอดิน หน่อนี้จะมีรากที่หยั่งลงดิน
และอีกส่วนติดกับเป็นหน่อที่ดีเพราะมีระบบรากเจริญเติบโตดี นำไปปลูกแล้วมีโอกาสตายน้อย
เมื่อได้หน่อแล้วนำไปปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ หรือนำไปปลูกในกระถาง รดน้ำทุกวัน
ระยะที่ปลูกใหม่ ๆ ควรจะให้ต้นรับแสงรำไร |
การบำรุงรักษา |
เมื่อปลูกไปนาน ๆ ลำต้นจะโตและมีหน่อโผล่ขึ้นมามาก ควรจะมีการแยกหน่อออกไปบ้างเพื่อไม่ให้หน่อแย่งอาหารจากต้นแม่
สำหรับต้นที่ดีแล้วควรจะเอาไว้ที่มีแสงแดดส่องตลอดเวลาเพื่อให้ลำต้นแข็งแรงและไม่อวบน้ำจนเกินไป
|