|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Annona squamosa Linn. |
วงศ์ |
ANNONACEAE |
ชื่ออื่น ๆ |
มะนอแน่ มะแน่ น้อยแหน่ (ภาคเหนือ) หมักเขียบ (ภาคอีสาน)
ลาหนัง(ปัตตานี) |
ลักษณะของพืช |
เป็นไม้ยืนต้น ใบเดี่ยวติดกับลำต้นแบบสลับ ก้านใบยาวง 0.51.5
ซม. ใบรูปร่างคล้ายรูปไข่ รูปรีหรือเรียวยาวแกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือแหลม
ตัวใบกว้าง 26 ซม. ยาว 510 ซม. ดอกออกเดี่ยว ตามมุมก้านใบ สีเหลืองอมเขียวและมีกลิ่นหอม
ดอกเรียวยาวขนาด 35 มม. ยาว 1.52 ซม. และมี 3 กลีบ ผลรูปทรงกลมขนาด
510 ซม. ผิวของผลเป็นตุ่มนูนตามตำแหน่งและจำนวนของเมล็ดที่อยู่ภายในผล
เมล็ดสีดำเป็นมัน รูปไข่ขนาดกว้าง 36 มม. ยาว 1 ซม. มีเนื้อสีขาวขุ่นรสหวานหุ้มเมล็ด |
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
ใบสดหรือเมล็ด (สดแห้ง) |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
ใช้กำจัดเหา ใช้ใบสดโขลกและใส่น้ำพอแฉะชะโลมที่ผม เอาผ้าบางคลุมไว้สักครู่แล้วจึงสระทำความสะอาดผม
หรือใช้เมล็ดสดหรือแห้ง 1020 เมล็ด บุบพอแตก เอาแต่เนื้อในเมล็ดโขลกให้ละเอียดผสมน้ำมันพืชหรือสัตว์
ทาวันละ 34 ครั้ง |
การขยายพันธุ์ |
ใช้เพาะเมล็ด ติดตา ทาบกิ่ง ต่อกิ่งหรือตอนกิ่ง ที่นิยมคือ
การเพาะเมล็ด |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนปนทราย หรือดินดำร่วนซุย
ไม่ชอบน้ำขัง ทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี ควรปลูกต้นฤดูฝน |
การปลูก |
เตรียมดินโดยขุดดินตากแดดไว้ 1 สัปดาห์ ไถพรวนอีกครั้งก่อนปลูก
ขุดหลุมขนาดกว้าง ยาวและลึก ด้านละ 20 ซม. ใช้ปุ๋ยคอกคลุกเคล้าดินรองก้นหลุม
ย้ายต้นกล้าที่มีอายุ 1 ปี ลงปลูก กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ถ้าแดดจัดควรทำร่มบังแดดให้
หรืออาจปลูกโดยหยอดเมล็ดลงในแปลงเลยก็ได้ โดยขุดดินให้ลึกเพียง 5 ซม.
หยอดเมล็ดลงหลุมละ 35 เมล็ด กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นเจริญเติบโตดีควรถอนต้นที่ไม่แข็งแรงทิ้งให้เหลือหลุมละ
12 ต้นเท่านั้น |
การบำรุงรักษา |
ระยะแรกปลูกต้องรดน้ำทุกวัน ถ้าฝนไม่ตก ทำร่มบังแดดให้
แต่เมื่อโตแล้วก็ไม่จำเป็น อายุประมาณ 3 ปีจะเริ่มให้ผล หลังจากเก็บผลแล้วต้องตัดแต่งกิ่ง
พรวนดินกำจัดวัชพืชรอบโคนต้น และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้ปีละ 2 ครั้ง
คือเมื่อถึงฤดูฝนและเมื่อเริ่มติดผลเพื่อช่วยให้ผลดก |