Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
RANGSAN
โลกแห่งสมุนไพร
   ::รังสรรค์ ชุณหวรากรณ์::

กระชาย

 

ชื่อวิทยาศาสตร์ Boesenbergia rotunda (L.) Mansf.
(Syn. Kaempferia pandurata Roxb.)
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่ออื่น ๆ กะแอน ระแอน (ภาคเหนือ) ขิงทราย (มหาสารคาม)
ลักษณะของพืช มีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นหอม มีรากสะสมอาหารเป็นรูปทรงกระบอกปลายแหลมจำนวนมาก ส่วนที่อยู่บนดินสูงได้ถึง 50 ซม. มีกาบใบเป็นแผ่นบาง สีแดงเรื่อ ตรงกลางเป็นร่องหุ้มซ้อนกัน กาบใบยาว 12–25 ซม. ตัวใบรูปร่างรี ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือแหลม ตัวใบกว้าง 5–10 ซม. ยาว 10–30 ซม.ดอกออกเป็นช่อตรงยอด ดอกสีขาวหรือขาวอมชมพู
ส่วนที่ใช้เป็นยา เหง้าและราก (ทั้งสดหรือแห้ง)
สรรพคุณและวิธีใช้
  1. แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อและปวดท้อง ใช้เหง้าและรากประมาณ ครึ่งกำมือ (สด 5–10 กรัม แห้ง 3–5 กรัม) ต้มเอาน้ำดื่ม
  2. แก้บิดปวดเบ่งและมีมูกหรืออาจมีเลือดด้วย) ใช้เหง้าหรือหัวสดครั้งละ 3 หัว (ประมาณ 15 กรัม) ย่างไฟพอสุก ตำกับน้ำปูนใส คั้นเอานำดื่ม
การขยายพันธุ์ ใช้เหง้าหรือเรียกว่าหัว
สภาพดินฟ้าอากาศ ชอบดินปนทรายไม่ชอบดินแฉะ ฤดูปลูกคือฤดูแล้ง ราวเดือนเมษายน
การปลูก เตรียมดินโดยไถและขุดด้วยจอบ ตากดินทิ้งไว้นานพอควร จากนั้นจึงยกร่องเพื่อช่วยในการระบายน้ำ ยกร่องกว้าง 1.5 เมตร ระยะร่องห่างกันพอเป็นทางเดิน ขุดหลุม สำหรับปลูกให้ลึกเพียงหน้าจอบเดียว นำหัวกระชายที่เตรียมไว้ โดยการตัดใบทิ้งและเหลือรากไว้เพียง 2 ราก ลงหลุมกลบด้วยปุ๋ยคอกพอมิดต้นเท่านั้น คลุมด้วยฟาง รดน้ำให้ชุ่ม
การบำรุงรักษา กระชายไม่ต้องการความเอาใจใส่มากนัก การรดน้ำอาจไม่จำเป็น อาศัยน้ำฝนเท่านั้นก็พอ ใส่ปุ๋ยครั้งเดียวตอนปลูก และไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลง เพราะไม่มีโรคหรือแมลงรบกวน

 
   
   
 
Copyright 2002 คำนำสารบัญเกี่ยวกับผู้จัดทำโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์จังหวัดนนทบุรี บรรณานุกรม