Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
RANGSAN
โลกแห่งสมุนไพร
   ::รังสรรค์ ชุณหวรากรณ์::

มะนาว

 

ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus aurantifolia (Christm.) Swingle
วงศ์ RUTACEAE
ชื่ออื่น ๆ ส้มมะนาว มะลิว (ภาคเหนือ)
ลักษณะของพืช เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ตามกิ่งก้านมีหนามแหลมคมจำนวนมาก ก้านใบสั้นและกางเป็นปีกคล้ายมะกรูดแต่เล็กกว่าและสั้นกว่า คือยาวไม่เกิน 2 ซม. ตัวใบรูปร่างคล้ายรูปไข่รี สีเขียวเป็นมัน ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบจักเล็กน้อย ขนาดกว้าง 1–4 ซม. ยาว 2–7 ซม. ดอกสีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ขนาดเล็กออกตรงซอกโคนก้านใบ มีทั้งดอกเดี่ยว ๆ และออกเป็นช่อ 3–7 ดอก ผลค่อนข้างกลมโต รูปร่างและขนาดแตกต่างกันตามพันธุ์ ผิวของผลมีน้ำมันหอมระเหยและรสขม ภายในผลมีถุงเป็นเยื่อบาง ๆ รูปร่างเรียวยาวแต่ขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรจุน้ำที่มีรสเปรี้ยว มีเมล็ดรูปไข่ปลายแหลมแทรกอยู่เป็นระยะ
ส่วนที่ใช้เป็นยา ผิวของผลสด และผลสด
สรรพคุณและวิธีใช้
  1. แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง ใช้ผิวของผลสดประมาณครึ่งผล ชงน้ำดื่ม
  2. แก้ไอและขับเสมหะ ใช้ผลสดคั้นเอาน้ำใส่เกลือ จิบบ่อย ๆ
การขยายพันธุ์ ใช้วิธีเพาะเมล็ด การติดตา การทาบกิ่ง และการตอน แต่ที่นิยมกันมากได้แก่การตอน
สภาพดินฟ้าอากาศ ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด โดยเฉพาะดินโปร่งร่วนซุย มีอินทรียวัตถุจำนวนมาก และระบายน้ำได้ดี ควรปลูกฤดูฝน
การปลูก ขุดหลุมกว้าง ยาว และลึกด้านละ 60 ซม. ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม นำกิ่งตอนลงปลูก กลบดินพอมิด ควรมีไม้ปักไว้ และผูกเชือกมัดกับต้นกันโยก และทำร่มบังให้ด้วย ถ้าปลูกในที่ลุ่มควรยกโคกให้สูงพอควร เพื่อป้องกันรากถูกน้ำแช่ขังมากเกินไป
การบำรุงรักษา ในระยะปลูกใหม่ ๆ ต้องรดน้ำทุกวัน และคอยสังเกตอย่าให้ใบมะนาวเหี่ยว ควรปลูกไม้ทำร่มให้เมื่อมะนาวอายุ 1–2 ปี แต่เมื่อต้นแข็งแรงดีแล้วต้องตัดไม้บังร่มออกให้หมด เพื่อมิให้เกิดการแย่งแสงแดดกัน และควรมีการตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้อากาศและแสงแดดส่องได้ทั่วต้น

 
   
   
 
Copyright 2002 คำนำสารบัญเกี่ยวกับผู้จัดทำโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์จังหวัดนนทบุรี บรรณานุกรม