|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Coccinia grandis (L.) Voigt. , (Syn. C.indica Wight.
& Arn.) |
วงศ์ |
CUCURBITACEAE |
ชื่ออื่น ๆ |
ผักแคบ (ภาคเหนือ) |
ลักษณะของพืช |
เป็นไม้เลื้อย ใบเดี่ยวติดกับลำต้นแบบสลับ ใบมีรูปร่างคล้ายรูปไข่หรือรูปห้าเหลี่ยม
ขอบใบเรียบหรือหยักเว้าลึก 5 หยัก โคนใบเว้ารูปหัวใจ เนื้อใบด้านบนหยาบเล็กน้อย
ด้านใต้ใบมีต่อมขนาดเล็กอยู่ที่ฐานของเส้นใบใหญ่ ขนาดใบมีความกว้างใกล้เคียงกับความยาว
515 ซม. ก้านใบยาว 24 ซม. ดอกมีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย ซึ่งออกตามมุมก้านใบ
ดอกสีขาว ขนาด 24 ซม. ผลแก่สีแดงสด |
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
ใบสด |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
แก้ฝี แผลพุพอง
- ใช้แก้โรคผิวหนังจำพวกเริมและงูสวัด ใช้ใบสดประมาณ 2 กำมือ ตำให้ละเอียด
เติมดินสอพอง 1 ใน 4 ส่วน นำมาทาบ่อย ๆ บริเวณที่เป็น
- แก้พิษแมลงสัตว์ กัด ต่อย (ไม่รวมพิษงู) ใช้ 210 ใบ ขยี้หรือตำให้แหลก
นำมาทาหรือพอก ใช้ดีสำหรับแก้พิษมดคันไฟหรือใบตำแย
|
การขยายพันธุ์ |
ใช้เมล็ด หรือปักชำ ที่นิยมคือปักชำ |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
ขึ้นได้ทั่วไปในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนซุย ทนแล้งและทนฝนได้ดี
ปลูกได้ตลอดปี |
การปลูก |
ตัดเถาแก่ยาวประมาณ 10 ซม. และมีตาอยู่ 2 ตา ปักชำลงในดินให้เหลือตาโผล่เหนือระดับดิน
1 ตา และฝังอยู่ในดิน 1 ตา กดดินรอบ ๆ ให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม และควรทำค้างไม้เตี้ย
ๆ ให้ต้นเจริญเลื้อยพัน โดยทั่วไป มักปลูกตามริมรั้วบ้าน เพื่อเก็บยอดรับประทานเป็นผัก
|
การบำรุงรักษา |
ตำลึงเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องเอาใจใส่มากนัก แต่ถ้าต้องการให้ต้นเจริญดีและเก็บยอดได้ตลอดไปควรตัดแต่งกิ่งเสมอ
เพื่อให้ต้นโปร่งและแตกแขนงใหม่ และใส่ปุ๋ยโคนต้นบ้างเป็นครั้งคราวนอกจากนี้ควรดูแลกำจัดโรค
แมลงให้ด้วย |