|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Cassia angustifolia Vahl. |
วงศ์ |
LEGUMINOSAE |
ชื่ออื่น ๆ |
- |
ลักษณะของพืช |
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ต้นสูงประมาณ 11.5 เมตร ใบเป็นใบประกอบ
มีใบย่อย 39 คู่ ดอกเป็นช่อสีเหลืองคล้ายดอกขี้เหล็ก ฝักกว้าง 1.52
ซม. ยาวประมาณ 5 ซม. ลักษณะคล้ายฝักถั่วแปบหรือสีเสียด เมล็ดในฝักมีประมาณ
48 เมล็ด ฝักมีสีเขียวอ่อนกว่าสีของใบ |
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
ใบแห้ง |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
แก้อาการท้องผูก ใช้ใบแห้ง 12.5 กำมือ (310 กรัม) ต้มกับน้ำดื่มหรือตากแห้งป่นรับประทานก็ได้
|
การขยายพันธุ์ |
ใช้เมล็ด |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
มะขามแขกเป็นพืชทนแล้งได้ดีพอควร ต้องการน้ำในระยะแรกเท่านั้นและเจริญได้ในดินแทบทุกชนิด
ควรปลูกในตอนต้นฤดูฝน |
การปลูก |
ใช้วิธีหยอดเมล็ดลงในหลุมหรือเพาะเมล็ดก่อนแล้วจึงย้ายกล้าไม้ไปปลูกก็ได้
หลุมเพาะเมล็ดควรลึก 12 ซม. เมื่อหยอดเมล็ดหลุมละ 34 เมล็ดแล้วเกลี่ยดินกลบบาง
ๆ รดน้ำให้ชุ่ม เมล็ดจะงอกหลังการเพาะประมาณ 15 วัน จากนั้นควรถอนให้เหลือหลุมละ
12 ต้น |
การบำรุงรักษา |
ควรให้น้ำในระยะแรก แต่ถ้าหากฝนทิ้งช่วงก็ควรให้น้ำบ้าง
และควรให้ปุ๋ยแก่มะขามแขกหลังจากงอกแล้วประมาณ 30 วัน |