Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
RANGSAN
โลกแห่งสมุนไพร
   ::รังสรรค์ ชุณหวรากรณ์::

กระเจี๊ยบแดง

 

ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus sabdariffa Linn.
วงศ์ MALVACEAE
ชื่ออื่น ๆ แขว้งเคีย (ตาก) มะแว้งเถา (กรุงเทพฯ)
ลักษณะของพืช กระเจี๊ยบแดงเป็นพืชล้มลุกปีเดียว ลำต้นสูง 1–2 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดงใบออกสลับกัน ก้านใบยาวประมาณ 5 ซม. ตัวใบรีแหลมอาจมีรอยเว้าลึกแบ่งตัวใบ ออกเป็น 3 แฉก ดอกสีชมพูอมแดง หลังจากดอกแก่เต็มที่แล้ว กลีบเลี้ยงจะติดกันสีแดงอมม่วง เนื้อหนากรอบหักง่ายห่อหุ้มเมล็ดสีดำเมล็ดมีจำนวนมากกระเจี๊ยบแดงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่ง ที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกมีตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ประเทศเยอรมัน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ส่วนที่ใช้เป็นยา กลีบเลี้ยงและกลีบรองดอก
สรรพคุณและวิธีใช้ แก้อาการขัดเบา ใช้กลีบเลี้ยงหรือกลีบรองดอกสีม่วงแดง ตากแห้งและบดเป็นผง ใช้ครั้งละ 1 ช้อนชา (หนัก 3 กรัม) ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร) ทิ้งไว้ 5–10 นาทีรินเฉพาะน้ำสีแดงใสดื่มวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันทุกวันจนกว่าอาการขัดเบาจะหายไป
การขยายพันธุ์ ใช้เมล็ด
สภาพดินฟ้าอากาศ โดยเตรียมดินและพรวนดินให้ร่วน และใช้เมล็ดพันธุ์หยอดหลุมละ 3–5 เมล็ด ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 70 ซม. ระหว่างแถวห่าง 120–150 ซม. เมื่อกระเจี๊ยบแดงอายุได้ 3–4 สัปดาห์ ให้เลือกถอนต้นที่ไม่แข็งแรงออกเหลือไว้เพียง 1–2 ต้น
การปลูก ปรับดินให้เรียบ กำจัดวัชพืชออกให้หมด หยอดเมล็ดลงในดินให้ลึก 2–3 ซม. กลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม
การบำรุงรักษา กระเจี๊ยบแดง ต้องการน้ำในช่วง 1 เดือนแรกเท่านั้น ต่อจากนั้นจะทนความ แห้งแล้งได้เป็นอย่างดี

 
   
   
 
Copyright 2002 คำนำสารบัญเกี่ยวกับผู้จัดทำโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์จังหวัดนนทบุรี บรรณานุกรม