|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Hibiscus sabdariffa Linn. |
วงศ์ |
MALVACEAE |
ชื่ออื่น ๆ |
แขว้งเคีย (ตาก) มะแว้งเถา (กรุงเทพฯ) |
ลักษณะของพืช |
กระเจี๊ยบแดงเป็นพืชล้มลุกปีเดียว ลำต้นสูง 12 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดงใบออกสลับกัน
ก้านใบยาวประมาณ 5 ซม. ตัวใบรีแหลมอาจมีรอยเว้าลึกแบ่งตัวใบ ออกเป็น
3 แฉก ดอกสีชมพูอมแดง หลังจากดอกแก่เต็มที่แล้ว กลีบเลี้ยงจะติดกันสีแดงอมม่วง
เนื้อหนากรอบหักง่ายห่อหุ้มเมล็ดสีดำเมล็ดมีจำนวนมากกระเจี๊ยบแดงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่ง
ที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกมีตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ
เช่น ประเทศเยอรมัน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น |
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
กลีบเลี้ยงและกลีบรองดอก |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
แก้อาการขัดเบา ใช้กลีบเลี้ยงหรือกลีบรองดอกสีม่วงแดง ตากแห้งและบดเป็นผง
ใช้ครั้งละ 1 ช้อนชา (หนัก 3 กรัม) ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร)
ทิ้งไว้ 510 นาทีรินเฉพาะน้ำสีแดงใสดื่มวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันทุกวันจนกว่าอาการขัดเบาจะหายไป
|
การขยายพันธุ์ |
ใช้เมล็ด |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
โดยเตรียมดินและพรวนดินให้ร่วน และใช้เมล็ดพันธุ์หยอดหลุมละ
35 เมล็ด ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 70 ซม. ระหว่างแถวห่าง 120150 ซม.
เมื่อกระเจี๊ยบแดงอายุได้ 34 สัปดาห์ ให้เลือกถอนต้นที่ไม่แข็งแรงออกเหลือไว้เพียง
12 ต้น |
การปลูก |
ปรับดินให้เรียบ กำจัดวัชพืชออกให้หมด หยอดเมล็ดลงในดินให้ลึก
23 ซม. กลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม |
การบำรุงรักษา |
กระเจี๊ยบแดง ต้องการน้ำในช่วง 1 เดือนแรกเท่านั้น ต่อจากนั้นจะทนความ
แห้งแล้งได้เป็นอย่างดี |