|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Languas galanga (L.) StuntZ
(Syn. Alpinia galanga (L.) Sw.) |
วงศ์ |
ZINGIBERACEAE |
ชื่ออื่น ๆ |
ข่าตาแดง ข่าหยวก |
ลักษณะของพืช |
มีลำต้นเป็นเหง้าที่มีข้อและปล้องเห็นได้ชัดเจนอยู่ใต้ดิน
ส่วนที่อยู่บนดินอาจสูงได้ถึง 2 เมตร ใบเดี่ยวออกสลับ มีกาบใบหุ้มลำต้น
ใบรูปรีเกือบขอบขนาน กว้าง 511 ซม. ยาว 2040 ซม. เนื้อใบสองข้างมักไม่เท่ากัน
ปลายใบแหลม โคนใบคล้ายสามเหลี่ยม ดอกออกที่ยอดเป็นช่อยาว มีก้านช่อยาว
1030 ซม. แต่ละดอกมีขนาดเล็กผลมีรูปร่างรีและใหญ่ประมาณ 1 ซม. |
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
เหง้าแก่สดหรือแห้ง |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
- แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง ใช้ขนาดเท่ากับหัวแม่มือ
(สดประมาณ 5 กรัม แห้งประมาณ 2 กรัม) ทุบให้แตกต้มเอาน้ำดื่ม
- ใช้รักษาโรคผิวหนัง (ชนิดเกลื้อน) ใช้เหง้าสดฝนกับเหล้าโรงหรือน้ำส้มสายชูหรือตำแล้วแช่แอลกอฮอล์
|
การขยายพันธุ์ |
ใช้เหง้าหรือที่เรียกว่าแง่งข่า |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
ชอบที่ดอนดินร่วนซุย มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีความชุ่มชื่นเหมาะสม
แต่ไม่ชอบน้ำขัง ฤดูปลูกที่เหมาะสมคือต้นฤดูฝน |
การปลูก |
เตรียมดินโดยขุดดินตากแดดไว้ให้ร่วนซุย ใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยพืชสดกลบหน้าพอสมควร
หลังจากตากดินแล้วจึงขุดกลับคืน ย่อยดินเพื่อให้ร่วนซุยอีกครั้ง ใช้แง่งข่าที่ตัดแบ่งยาประมาณ
1 คืบ พร้อมติดดินและรากด้วย ฝังไว้ในหลุมที่ขุดไว้หลุมละ 23 แง่ง กลบดินเท่ากับความลึกของแง่งข่าที่ขุดจากที่เดิม
|
การบำรุงรักษา |
ตอนเริ่มปลูกควรรดน้ำวันละ 12 ครั้ง และหมั่นดูแลความชุ่มชื้นของดินอยู่เสมอ
เมื่อข่าเจริญดีแล้วจึงรดน้ำ 23 วันครั้งก็ได้ การใส่ปุ๋ยไม่จำเป็น
อาจใส่เดือนละครั้ง หรือไม่ใส่ก็ได้ |