|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Ocimum americanum Linn. (Syn. O. canum Sims.) |
วงศ์ |
LABIATAE |
ชื่ออื่น ๆ |
มังลัก (ภาคกลาง) ก้อมก้อขาว (ภาคเหนือ) |
ลักษณะของพืช |
เป็นพืชล้มลุก ส่วนของต้นมีกลิ่นหอม และมีขนทั่วไป ใบเดี่ยวติดกับลำต้นแบบตรงกันข้ามก้านใบยาว
12 ซม. รูปร่างคล้ายรูปไข่เรียวยาวหรือรียาว กว้าง 12 ซม. ยาว 25
ซม. ปลายใบแหลมมากกว่าโคนใบ ขอบใบหยักเล็กน้อย ดอกออกรวมเป็นช่อที่ปลายยอดแต่ละดอกติดรอบแกนช่อเป็น
ชั้น ๆ อาจมีหนึ่งช่อหรือหลายช่อรวมเป็นช่อใหญ่ แต่ละช่อยาว 510 ซม.
ที่โคนดอกมีใบประดับรองรับอยู่ ดอกสีขาวขนาด 46 มม. เมล็ดเล็ก 34 มม.
|
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
เมล็ดแห้ง |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
ใช้แก้อาการท้องผูก ใช้เมล็ดแห้ง 0.51 ช้อนคาว หรือหนัก
510 กรัม แช่น้ำเย็นประมาณ 1 แก้ว รับประทานหลังอาหารเช้าหรือเย็น หรือก่อนนอน
|
การขยายพันธุ์ |
ใช้ปักชำและเพาะเมล็ด |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
ขึ้นได้ทั่วไป ไม่เลือกชนิดของดิน แต่ไม่ชอบที่น้ำขัง |
การปลูก |
ตัดกิ่งแก่ยาวพอควร ริดใบออกจนเกือบหมด ปักชำลงในดินและรดน้ำให้ชุ่มทันที
กิ่งชำจะแตกยอดใหม่ในเวลา 12 สัปดาห์ หรืออาจปลูกโดยเพาะเมล็ดในกระบะเพาะก็ได้
ย้ายปลูกเมื่ออายุ 2530 วัน ถ้าต้องการปลูกในภาชนะต่าง ๆ เช่น กระถางดินหรือรังไม้
ควรใช้ดินเหนียวผสมทรายและปุ๋ยคอกในปริมาณเท่า ๆ กันเป็นดินปลูก จะช่วยให้เจริญเติบโตได้ดี
|
การบำรุงรักษา |
แมงลักเป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และมักไม่มีแมลงรบกวนจึงไม่จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่มากนัก
นอกจากคอยสังเกตความชื้นของดิน และกำจัดวัชพืชให้บ้าง |