|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Piper nigrum Linn. |
วงศ์ |
PIPERACEAE |
ชื่ออื่น ๆ |
พริกน้อย (ภาคเหนือ) |
ลักษณะของพืช |
เป็นไม้เลื้อยมีทั้งต้นตัวผู้และต้นตัวเมีย ลำต้นมีข้อและปล้องชัดเจน
ใบเดี่ยวออกสลับ รูปไข่หรือรี ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือแหลมเล็กน้อย ใบกว้าง
3.56 ซม. ยาว 710 ซม. ก้านใบยาว 1020 มม. ดอกออกเป็นช่ออยู่ตามข้อตรงข้ามกับใบ
ช่อดอกตัวเมียมีกลีบประดับรูปเกือบกลม ขนาด 45 มม. ติดอยู่ตามแกนช่อดอกรองรับดอก
รังไข่กลมปลายเกสรแยก 35 แฉกช่อดอกตัวผู้ที่มีดอกเกสรตัวผู้ 2 อัน ผลอยู่รวมกันบนช่อยาว
515 ซม. ผลรูปทรงกลมขนาด 36 มม. แก่แล้วมีสีดำ ภายในมี 1 เมล็ด |
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
ผล (ซึ่งเรียกว่า พริกไทยดำ) หรือ เมล็ด (ซึ่งเรียกว่า
พริกไทยร่อน หรือ พริกไทยขาว |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
แก้อาการปวดท้อง ท้องอืด และท้องเฟ้อ ใช้ผล หรือเมล็ดตำเป็นผง
ครั้งละ 0.5 ช้อนชา หรือหนัก 0.51 กรัม ผสมน้ำสุก รับประทาน วันละ 3
ครั้ง เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ |
การขยายพันธุ์ |
ใช้ปักชำ |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
ขึ้นได้ในดินทั่วไป แต่ชอบดินที่มีอินทรียวัตถุสูง มีการระบายน้ำดีชอบอากาศอบอุ่นและชื้น
ควรปลูกในฤดูฝน |
การปลูก |
โดยทั่วไปนิยมปลูกโดยใช้ค้าง ก่อนปลูกเตรียมดินโดยขุดหลุมขนาดกว้าง
40 ซม. ยาว 60 ซม. และลึก 40 ซม. ใช้ปุ๋ยคอกผสมดินรองก้นหลุม นำยอดพันธุ์ลงปลูกในหลุม
ยอดพันธุ์นั้นใช้ลำต้นส่วนยอดหรือส่วนอื่นที่ไม่แก่จัด อายุ 1 ปี มีขนาดยาว
4050 ซม. และมีข้ออยู่ 57 ข้อ ปักชำไว้จนออกรากแข็งแรงก่อนนำลง ปลูกหรือตัดยอดลงปลูกเลยก็ได้
อีกวิธีหนึ่งอาจปลูกโดยไม่ใช้ค้างก็ได้ เนื่องจากการปลูกโดยใช้ค้างมีต้นทุนสูง
แต่มีข้อเสียคือ ผลผลิตจะน้อยกว่าการปลูกโดยวิธีแรก การปลูกวิธีนี้มีการเตรียมพันธุ์แตกต่างจากวิธีแรกเล็กน้อย
โดยตัดกิ่งพันธุ์ออกเป็นข้อ ๆ ทุกข้อ การตัดจะตัดระหว่างกลางของแต่ละปล้อง
นำไปชำในแปลงปักชำซึ่งอยู่ในที่ร่มรำไร หลังจากนั้น 12 เดือน จึงขุดใส่ถุง
ต่อมาอีก 1 เดือนจึงนำไปปลูกเช่นเดียวกับวิธีแรก |
การบำรุงรักษา |
พริกไทยเป็นพืชที่ต้องการความเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด
เมื่อเริ่มปลูกต้องบังร่มให้ รดน้ำวันเว้นวัน เมื่ออายุ 1 เดือนจึงเอาร่มบังออก
การปลูกใช้ค้างเมื่อต้นเริ่มแตกยอดอ่อนและยาวพอสมควร ต้องใช้เชือกฟางหรือเถาวัลย์ผูกยอดให้แนบค้าง
ปลิดยอดอ่อนที่ไม่แข็งแรงออกบ้าง เหลือยอดที่สมบูรณ์ที่สุดไว้เพียงต้นละ
23 ยอด เพื่อไม่ให้แย่งอาหารกัน การผูกยอดและตัดแต่งนี้ต้องทำทุกสัปดาห์จนกว่าพริกไทยจะสูงถึงยอดค้าง
พูนดินและใส่ปุ๋ยคอกหลังกำจัดวัชพืชรอบโคนต้น ในฤดูแล้งควรคลุมโคนต้นด้วยหญ้า
ฟาง หรือเปลือกถั่ว เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดิน และเป็นปุ๋ยให้พริกไทยเมื่อเน่าสลาย
นอกจากนี้ ต้องคอยระวังโรคและแมลงศัตรูให้ด้วย สำหรับการปลูกโดยไม่ใช้ค้าง
หลังจากปลูก 3050 วัน ต้องคอยเด็ดยอดที่โผล่มาจากดินตามโคนทิ้ง เพื่อให้กิ่งแขนงแตกกิ่งก้านสาขามากขึ้น
เมื่อต้นออกดอกก่อนอายุครบ 1 ปีควรเด็ดดอกทิ้งให้หมด ถ้าปล่อยไว้ต้นจะแคระแกรน
เมื่อต้นยังเล็กหมั่นถอนวัชพืชที่โคนต้น เมื่อต้นเจริญเติบโตแตกกิ่งแขนงออกจากกิ่งเดิม
ต้องหาไม้เล็ก ๆ ค้ำยันกิ่งแขนงเดิมให้ตั้งตรงจนกว่าจะแข็งแรงพอที่จะพยุงลำต้นได้
ทุก ๆ ปีควรใส่ปุ๋ยอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง นอกจากนี้ก็ต้องคอยระวังโรคและแมลงให้ด้วย
|