|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Saccharum sinense Roxb |
วงศ์ |
GRAMINEAE |
ชื่ออื่น ๆ |
อ้อยดำ อ้อยขม |
ลักษณะของพืช |
เป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นสูง 13 เมตร ลำต้นมีข้อปล้องเห็นชัดเจน
สีของลำต้นแดงคล้ำแต่ละปล้องอาจจะยาวหรือสั้นก็ได้ ใบออกที่ข้อแบบสลับ
และร่วงง่าย จึงพบเฉพาะตามปลายยอดโดยมีกาบใบโอบหุ้มข้ออยู่ รูปใบเรียว
ปลายแหลม ขนาดยาว 50175 ซม. กว้าง 410 ซม. ขอบใบจักละเอียดและคม ดอกออกเป็นช่อใหญ่อยู่ตรงปลายยอด
ขนาด 4080 ซม. สีขาว ประกอบด้วยดอกย่อยมีขนาดเล็กจำนวนมาก และมีขนยาว
|
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
ลำต้นทั้งสดหรือแห้ง |
สรรพคุณและวิธีใช้ |
ขับปัสสาวะ ใช้ลำต้นวันละ 1 กำมือ (สด 7090 กรัม) แห้ง
3040 กรัม) หั่นเป็นชิ้น ๆ ต้มกับน้ำรับประทานวันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหารครั้งละ
1 ถ้วยชา (75 มิลลิลิตร) |
การขยายพันธุ์ |
ใช้ลำต้นหั่นเป็นท่อน เลือกท่อนที่มีตาติดประมาณ 3 ตา เพื่อใช้เป็นท่อนพันธุ์
ใช้เพาะเมล็ด |
สภาพดินฟ้าอากาศ |
ชอบดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี และมีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง
ปลูกได้เกือบตลอดปี ยกเว้นช่วงที่ฝนตกหนักเกินไป |
การปลูก |
เตรียมดินโดยไถดินให้ลึกที่สุดหลาย ๆ ครั้ง เพื่อให้ดินร่วนซุย
ปรับระดับพื้นที่ให้เรียบ โดยอาจให้เอียงไปทางใดทางหนึ่งเพื่อการระบายน้ำก็ได้
ยกร่องสำหรับปลูก ใส่ปุ๋ยก้นร่องแล้วเอาดินกลบ จากนั้นจึงวางท่อนแม่พันธุ์ลงในร่องในลักษณะตาอยู่ด้านข้าง
แล้วเอาดินกลบให้แน่นพอควร |
การบำรุงรักษา |
ในระยะเริ่มแรกของการปลูก อ้อยต้องการน้ำน้อย แต่ต้องการเพิ่มขึ้นตามลำดับ
และเมื่อโตเต็มที่จะต้องการน้ำน้อยลง จึงควรให้น้ำตามที่พืชต้องการ พรวนดินระหว่างแถว
และกำจัดวัชพืชเป็นครั้งคราว |