|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Zingiber cassumunar Roxb.
|
วงศ์ |
ZINGIBERACEAE
|
ชื่ออื่น ๆ |
ปูลอย ปูเลย (ภาคเหนือ) ว่านไฟ (ภาคกลาง) มิ้นสะล่าง (เงี้ยวแม่ฮ่องสอน)
|
ลักษณะของพืช |
เป็นพืชล้มลุก ที่มีลำต้นใต้ดินเรียกว่าเหง้า เหง้ามีขนาดใหญ่ มีเนื้อในสีเหลืองอมเขียวและมีกลิ่นหอมเฉพาะ ลำต้นเทียมแทงขึ้นมาจากดิน ลำต้นสีเขียว มีใบออกตรงข้ามกัน ใบมีลักษณะยาวเรียว เนื้อในบางและปลายแหลม โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ดอกออกเป็นช่อแทงจากดินโดยตรงมีกลีบประดับซ้อนกันแน่น มีดอกเหลืองอยู่ระหว่างกลีบประดับ
|
ส่วนที่ใช้เป็นยา |
เหง้าแก่จัด
|
สรรพคุณและวิธีใช้ |
แก้อาการเคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ
ใช้เหง้าประมาณ 1 เหง้า ตำแล้วคั้นเอาน้ำทา ถูนวดบริเวณที่มีอาการ หรือตำให้ละเอียดผสมเกลือเล็กน้อยคลุกเคล้า แล้วนำมาห่อเป็นลูกประคบอังไอน้ำให้ความร้อน ประคบบริเวณปวดเมื่อยและฟกช้ำ เช้าเย็น จนกว่าจะหายหรือจะทำเป็นน้ำมันไพลไว้ใช้ก็ได้ โดยเอาไพลหนัก 2 กิโลกรัม ทอดในน้ำมันพืชร้อน ๆ 1 กิโลกรัม ทอดจนเหลืองแล้วเอาไพลออก ใส่กานพลูผงประมาณ 4 ช้อนชาทอดต่อด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 10 นาที กรองแล้วรอจนน้ำมันอุ่น ๆ ใส่การบูรลงไป 4 ช้อนชาใส่ในภาชนะปิดฝามิดชิดรอจนเย็นจึงเขย่าการบูรให้ละลาย น้ำมันไพลนี้ใช้ทาถูนวด 2 ครั้ง เช้าเย็น หรือเวลาปวด
|
การขยายพันธุ์ |
ใช้เหง้า
|
สภาพดินฟ้าอากาศ |
ชอบดินร่วนมีการระบายน้ำได้ดี ต้องการความชื้นสูงและชอบแสงแดดปานกลาง ไม่ชอบแดดจัดมาก
|
การปลูก |
นิยมปลูกในช่วงฤดูฝน โดยเก็บหัวไพลในช่วงฤดูแล้ง เพราะช่วงฤดูแล้งลำต้นเหนือดินจะแห้งตายเหลือแต่ลำต้นใต้ดิน จะขุดหัวขึ้นมาใช้หรือนำมาเป็นพันธุ์สำหรับปลูกในปีต่อไป จะปลูกเป็นแปลงหรือเป็นกอก็ได้ วิธีปลูกทำได้โดยการขุดเหง้าจากกอเดิมตัดลำต้นทิ้ง นำไปปลูกลงหลุมที่เตรียมไว้ ดูแลความชุ่มชื้นและวัชพืชสม่ำเสมอ
|