Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
RANGSAN
โลกแห่งสมุนไพร
   ::รังสรรค์ ชุณหวรากรณ์::

ขิง

 

ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingibr officinale Rosc.
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่ออื่น ๆ ขิงเผือก (เชียงใหม่)
ลักษณะของพืช เป็นพืชที่มีลำต้นเป็นเหง้าสีขาวนวลอยู่ใต้ดิน และมีส่วนที่อยู่บนดินสูงได้ถึง 50 ซม. ใบเดี่ยวออกสลับ มีกาบใบหุ้มลำต้นยาว 8–12 ซม. ตัวใบยาวปลายเรียวแหลม กว้าง 2–3 ซม. ยาว 10–25 ซม. ขอบใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อจากเหง้า มีก้านช่อยาว 10–20 ซม. ตัวช่อดอกประกอบด้วยดอกจำนวนมาก อัดกันเป็นรูปทรงกระบอกยาว 4–7 ซม.
ส่วนที่ใช้เป็นยา เหง้าแก่สด
สรรพคุณและวิธีใช้
  1. แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง และแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน (เกิดจากธาตุไม่ปกติ) ใช้เหง้าสดขนาดเท่าหัวแม่มือ (ประมาน 5 กรัม) ทุบให้แตกต้มเอาน้ำดื่ม
  2. แก้ไอและขับเสมหะฝนกับน้ำมะนาวแทรก เกลือ ใช้กวาดคอหรือจิบบ่อย ๆ
การขยายพันธุ์ ใช้เหง้า
สภาพดินฟ้าอากาศ ชอบดินร่วนปนทรายมีอินทรียวัตถุสูง ความชื้นสูง มีการระบายน้ำดี ไม่ชอบดินเหนียวหรือดินทรายจนเกินไป ฤดูปลูกที่เหมาะสมประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม
การปลูก เตรียมดินโดย ไถและยกร่องเพื่อให้ดินร่วนซุย ระยะห่างระหว่างสันร่อง ประมาณ 50 ซม. ขุดหลุมห่างกันหลุมละ 25 ซม. ใช้ท่อนพันธุ์ที่ชำงอกแล้ววางลงในหลุม ๆ ละ 1 ท่อน โดยวางให้ด้านที่แตกหน่อตั้งขึ้น กลบดินหนา 2–5 ซม. ใช้ฟางคลุมตลอดทั้งในร่องและสันร่อง เมื่อขิงอายุ 2 เดือนจึงกลบโคนครั้งที่ 1 โดยใช้จอบโกยดินบนสันร่องกลบโคนขิงหลังจากนั้น 1 เดือนจึงกลบโคนอีกครั้ง จะทำให้ขิงแตกหน่อดีและแง่งขิงแข็งแรง การใส่ปุ๋ยใช้ปุ๋ยหมัก ใส่ตอนเตรียมดินและตอนกลบโคนครั้งแรก ซึ่งใส่เพื่อกระตุ้นให้ขิงงามดี ไม่ควรใช้ปุ๋ยเคมี
การบำรุงรักษา หมั่นตรวจแปลงหลังฝนตก เพราะมักเกิดโรคเน่าจากเชื้อรา นอกจากนี้ ขิงมีศัตรูพวก หนอนกระทู้ เพลี้ยไฟ เพลี้ยหอย และไส้เดือนฝอย ควรป้องกันและกำจัดโดยถอนและรวบรวมต้นที่เป็นโรคทำลายโดยเผาไฟ

 
   
   
 
Copyright 2002 คำนำสารบัญเกี่ยวกับผู้จัดทำโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์จังหวัดนนทบุรี บรรณานุกรม