|
พระสันตะปาปาเป็นใคร
พระสันตะปาปา เป็นผู้นำของพระศาสนาจักรคาทอลิก และเป็นพระประมุขของรัฐพระสันตะปาปา
นอกจากเป็นประมุขสูงสุดของพระศาสนจักร ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว พระสันตะปาปายังทรงเป็นผู้ปกครองรัฐพระสันตะปาปา (นครรัฐวาติกัน) ซึ่งเป็นรัฐเล็ก ๆ รัฐหนึ่ง ในใจกลางของกรุงโรม
(แหล่งข้อมูล : อุดมศานต์ ธันวาคม 2538)
Back to home page |
สถาบันพระสันตะปาปา
โดย หลวงพี่ ภายในโบสถ์ซิสติน นครวาติกัน พระคาร์ดินัลประมาณ 110 องค์ จะเก็บตัวอยู่หลังประตูที่ปิดตาย อาหารการกิน จะลำเลียงส่งเข้าไปทางช่องเล็กๆ ท่านเหล่านั้นจะถูก
ตัดขาด จากโลกภายนอกอย่างเด็ดขาด จะไม่มีโอกาสพบเห็นและคุยกับใครเลย นอกจากพระคาร์ดินัลด้วยกันเองเท่านั้น ท่านจะใช้เวลาทั้งหมดประชุมกัน และสวดภาวนาวอนขอ พระเป็นเจ้า เพื่อจะได้ ลงคะแนนลับ เลือกพระคาร์ดินัลที่เหมาะสมองค์หนึ่ง ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ถ้าคะแนนเสียงที่ได้รับเลือก เกินกว่าสองในสาม เจ้าหน้าที่จะเผาบัตรลงคะแนน และปล่อยควันสีขาว ฝูงชนนับแสนที่ชุมนุมอยู่ที่ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร จะโห่ร้องแสดงความยินดี เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า
เหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นนี้ จะมีขึ้นทุกครั้ง ที่พระสันตะปาปาองค์หนึ่ง สิ้นพระชนม์ ไปแล้วประมาณสามสัปดาห์ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้คนทั้งโลก ได้หวนระลึกถึงสถาบันที่สูงสุดสถาบันหนึ่ง เป็นสถาบันที่สืบเนื่องกันมานานเท่าๆ กับ พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก นั่นคือ สถาบันพระสันตะปาปา จุดกำเนิดของสถาบันพระสันตะปาปา
ตามประวัติกล่าวว่า นักบุญเปโตร ได้เริ่มวางรากฐานของพระศาสนจักรที่โรม และ
ถูกประหารชีวิตที่โรม ดังนั้นบรรดาสังฆราชแห่งโรม ที่สืบตำแหน่งต่อจากนักบุญเปโตร
ต่างก็ได้ใช้อำนาจ ตามพระวาจาที่กล่าวไว้แล้วตลอดมา
นับเป็นเรื่องแปลกอยู่มาก ที่ในศตวรรษแรกๆ นั้น จักรวรรดิ์โรมัน ยังมิได้ยอมรับนับถือศาสนาคริสต์ ในระยะนั้น พระศาสนจักรถูกข่มแหงรังแกตลอดเวลา พระสันตะ ปาปาในระยะนั้น จะต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคริตชน และพระสันตะปาปาส่วนมาก จะถูกประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม ในค. ศ. 330 จักรวรรดิ์โรมันก็ยอมรับเอาคริสตศาสนา มาเป็นศาสนาประจำชาติ โรมจึงกลายเป็นศูนย์กลางใหญ่ ของพระศาสนจักรมาโดยตลอด บทบาทของพระสันตะปาปา
อำนาจของพระสันตะปาปา รุ่งเรืองขึ้นมาโดยตลอด และแผ่คลุมไปทั่วยุโรป เสียง ของพระสันตะปาปา เป็นเสียงที่ทรงไว้ซึ่งอำนาจ ดังเช่น พระสันตะปาปาเออร์บันที่สอง ได้เรียกร้องทำสงครามครูเสด กับพวกเตอร์ก ฒิพฬใน ค. ศ. 1095 และในศตวรรษที่ 12 นักบุญเบอร์นาร์ด ได้ตั้งทฤษฎี "ดาบสองเล่ม" ขึ้นโดยกล่าวว่า ทั้งอำนาจทั้งทางศาสนา และทางอาณาจักร เป็นของพระสันตะปาปาแต่ผู้เดียว อำนาจทางอาณาจักรนั้น กษัตริย์หรือผู้ครองแคว้นเป็นผู้ใช้ โดยคำสั่งของพระสันตะปาปาเท่านั้น ดังนั้นพระสันตะปาปา จึงมีอำนาจถอดถอนกษัตริย์ และตั้งผู้อื่นขึ้นเป็นแทน ดังเช่น พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ซึ่งเคยสนับสนุนให้พระเจ้าออตโตที่ 4 ได้เป็นจักรพรรดิ์แห่งเยอรมัน แต่ภายหลังก็ได้สนับสนุน พระเจ้าเฟรดริกที่ 2 ขึ้นมาแทน นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังมีอำนาจ ในการจัดเก็บภาษีจากวัด แทนที่จะเป็นอำนาจของกษัตริย์ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นโดยทั่วไป ในศตวรรษที่ 14 อิทธิพลของพระสันตะปาปา ที่สร้างสมมาหลายร้อยปีก็มาถึงสุดยอด รัฐต่าง ๆ ในอิตาลีแตกแยกกัน จนพระสันตะปาปา ต้องไปพึ่งกษัตริย์ฝรั่งเศส และเป็นเหตุให้พระสันตะปาปา ต้องอพยพจากกรุงโรม ไปอยู่ที่อาวียองเป็นเวลาถึง 68 ปี คือตั้งแต่ ค. ศ. 1309 ถึง 1377 ในระยะเวลาดังกล่าว พระสันตะปาปาต้องอยู่ภายใต้อำนาจ ของฝ่ายอาณาจักรฝรั่งเศส
ความแตกแยกในพระศาสนจักร
มรสุมลูกที่สอง ได้แก่ การปฏิรูปศาสนาโปรแตสตันต์ นำโดยมาร์ติน ลูเธอร์ในศตวรรษที่ 16 ทำให้พระศาสนจักรตะวันตก แบ่งออกเป็นนิกายต่าง ๆ มากมาย แต่ผลที่ตามมาก็คือ การปฏิรูปศาสนานี้ เป็นจุดที่ทำให้ชาติต่าง ๆ ในยุโรป ปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะปกครองตนเองอย่างมีอิสระ โดยไม่ต้องฟังเสียงของพระสันตะปาปา อำนาจการปกครอง ของพระสันตะปาปา ที่มีเหนือแคว้นต่าง ๆ จึงค่อย ๆ ลดน้อยลงทุกที จนในปี ค. ศ. 1870 ตัวกรุงโรมเอง ก็ถูกรัฐบาลอิตาลียึดไปจาก พระสันตะปาปา เป็นเหตุให้พระสันตะปาปา ต้องทำการประท้วง โดยการขังตัวเอง ในวังวาติกันดุจนักโทษ จวบจน ค. ศ. 1929 พระสันตะปาปา ปีโอที่ 11 จึงได้เจรจากับรัฐบาลอิตาลีเป็นผลสำเร็จ รัฐบาลอิตาลียอมให้กรุงวาติกัน ซึ่งมีเนื้อที่ 108 เอเคอร์ เป็นรัฐอิสระ พระสันตะปาปาจีงได้เป็นประมุข ของอาณาจักรทางโลกอีกครั้งหนึ่ง แต่ในด้านจิตใจแล้ว ประชากรของพระสันตะปาปา คือ คริสตชนทั่วโลกที่มีประมาณ 700 ล้านคนในปัจจุบัน ในสายตาของคริสตชนเหล่านี้ พระองค์มีฐานะเหนือกว่ากษัตริย์ใด ๆ ในโลกนี้
(แหล่งข้อมูล : อุดมศานต์ กันยายน 2521)
Back to home page |
พระสันตะปาปาองค์แรก
โดย หลวงพี่ แสงแดดอันแรงกล้า ที่ส่องเหนือจักรวรรดิโรมัน ได้จ่างหายไปแล้ว นครแห่งความวุ่นวาย กำลังจะเข้าสู่ยามวิกาล ทหารกลุ่มหนึ่ง ได้ทำหน้าที่ของตนเรียบร้อยแล้ว และกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ก็อดที่จะเหลียวกลับไปดูข้างหลังมิได้ เหลียวกลับไปดูกางเขน ที่ตั้งตระหง่านตัดกับขอบฟ้าสีแดง บนกางเขน ร่างของคนๆ หนึ่งถูกตรึงหัวห้อยลง ทุกอย่างในวันนั้น ทำท่าจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่เรื่องราวเกี่ยวกับคนๆ นั้นยังไม่สิ้นสุด มันอาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง ซีมอนชาวประมง
เปโตรหัวหน้าอัครสาวก
เปโตรปฏิเสธพระเยซู
ภาระที่ได้รับมอบหมาย
มรณสักขีที่กรุงโรม
สันตะปาปาองค์แรก
ในปฏิทินของพระศาสนจักร
เป็นการยากที่จะกล่าวว่า นักบุญเปโตรอยู่กรุงโรมกี่ปี ก่อนที่จะมีมรณสักขี คาดว่าคงจะจากเมืองอันติออก มาสู่กรุงโรมในราว ค. ศ. 55 แต่ก็ต้องนับว่า ท่านเป็นผู้วางรากฐานแห่งพระศาสนจักร ได้อย่างมั่นคง โดยอาศัยความร่วมมือกับนักบุญเปาโล คริสตชนในกรุงโรมถือว่าท่านเป็นสังฆราชองค์แรกแห่งกรุงโรม เมื่อท่านเป็นมรณสักขีแล้ว สังฆราชแห่งกรุงโรมองค์ต่อๆ มาก็รับมอบภาระผู้นำคริสตชน ต่อจากท่าน และกรุงโรมก็ค่อย ๆ กลายเป็นศูนย์กลาง ของการปกครองพระศาสนจักรทั่วโลก โดยมีสังฆราชแห่งกรุงโรม เป็นผู้นำในนามของสันตะปาปา (แหล่งข้อมูล : อุดมศานต์ พฤศจิกายน 2521)
Back to home page |
พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน
พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 เมื่อครั้งที่พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 1 เสด็จสวรรคต ด้วยโรคพระหทัยวาย เวลาประมาณเที่ยงคืน ของวันที่ 28 กันยายน 1978 (2521) หลังจากได้ดำรงตำแหน่งประมุขของพระศาสนจักร ได้เพียง 33 วัน ซึ่งนับว่าเป็นสันตะสมัยที่สั้นที่สุด ในรอบ 300 ปี
พระคาร์ดินัลที่ได้รับเลือกตั้ง ให้เป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่คือ
พระสันตะปาปา ทรงสมภพเมื่องวันที่ 18 พฤษภาคม 1920 (2463) ที่เมืองโวดิวิช ประเทศโปแลนด์
พระองค์เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์อันดี ในการดำเนินการกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ในประเทศโปแลนด์ บ้านเกิด ทรงเป็นนักนิรุกติศาสตร์ (นิรุกติศาสตร์ : วิชาที่ว่าด้วยที่มาและความหมายของคำ) ทรงสามารถ พูดภาษาอิตาเลียน ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน ได้อย่างคล่องแคล่ว
อุปนิสัยของพระองค์ท่านนั้น ทำให้ความประทับใจเกิดขึ้นกับเรา อย่างที่ปฏิเสธมิได้ แม้นแต่ผู้ที่ยังไม่เคยได้มีโอกาสเข้าเฝ้า หรือสัมผัสกับพระองค์อย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง ก็เช่นกัน ล้วนต่างซึมซับ และรับรู้ได้กันถ้วนทั่วว่า พระองค์ทรงคงความน่า ทรงถ่อมองค์อย่างน่าซาบซึ้งที่สุด ดังจะเห็นได้จาก การจุมพิตแผ่นดิน ในก้าวแรกของการเสด็จเยือนสู่ประเทศนั้น และสิ่งเหล่านี้ ยังคงปรากฏอยู่ในพระดำรัสแรก เมื่อครั้งที่ทรงปรากฏพระองค์ บนระเบียงหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่ออวยพรแด่สากลโลกและกรุงโรม เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ทรงรับเลือก
"ขอพระเยซูคริสตเจ้า ทรงได้รับการสรรเสริญสดุดี พี่น้อยชายหญิงที่รักยิ่ง เราทุกคนยังเศร้าโศกอาลัย ในการจากไปของพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 1 ที่รักยิ่งของชาวเรา. . . ณ บัดนี้ คณะพระคาร์ดินัล ได้เลือกพระสันตะปาปาแห่งโรมองค์ใหม่ และเลือกจากผู้ที่มาจากประเทศแดนไกล ถึงแม้จะห่างไกล แต่ก็ใกล้กันมาก ในความเชื่อและจารีตประเพณีเสมอ ข้าพเจ้ากลัวที่จะได้รับการแต่งตั้งนี้ แต่ข้าพเจ้าต้องรับ เพราะความนบนอบเพื่อพระเยซูเจ้า พระเจ้าของเรา และด้วยความไว้ใจอย่างเต็มเปี่ยม ต่อพระมารดาของพระองค์ ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดด้วย
(แหล่งข้อมูล : อุดมศานต์ ตุลาคม 2537)
Back to home page |
ซอกแซกพระสันตะปาปา
เรื่องที่ 1 : เมื่อพระสันตะปาปาสวรรคต
เรื่องที่ 2 : การสวรรคตในรูปแบบต่าง ๆ
ชั่วระยะเวลาหลายศตวรรษ มีพระสันตะปาปาหลายพระองค์ ที่สวรรคตเพราะความรุนแรง พระสันตะปาปาองค์แรกของพระศาสนจักรคือ นักบุญเปโตร สวรรคตในปี 64 ด้วยการถูกตรึงกางเขน ศีรษะห้อยลง ในรัชสมัยของจักรพรรดิเนโร พระสันตะปาปาอีก 14 องค์ ที่สืบตำแหน่งต่อจากพระองค์ ก็ถูกปลงพระชนม์เช่นกัน
ผู้ที่รอดชีวิต จากการถูกลอบปลงพระชนม์ มีพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 ในเดือน พฤศจิกายน 1970 (ที่สนามบินมะนิลา โดยช่างสีชื่อเบนจามิน เมนโดชา) และพระสันตะ ปาปายอห์น ปอล ที่ 2 (เดือนพฤษภาคม 1981 โดยโมฮัมหมัดอาลีอักกา ชาวตุรกี ที่ลานพระวิหารนักบุญเปโตร) เรื่องที่ 3 : พระสันตะปาปาที่ครองราชย์สั้นที่สุด
พระสันตะปาปาที่ทรงดำรงตำแหน่งนานที่สุด
เรื่องที่ 4 : การเลือกตั้งพระสันตะปาปาที่ยาวนานที่สุด
เรื่องที่ 4 : การเลือกตั้งพระสันตะปาปาที่สั้นที่สุด
เรื่องที่ 5 : วิธีเลือกพระสันตะปาปามีหลายวิธี
เรื่องที่ 6 : พระนามพระสันตะปาปา
เรื่องที่ 7 : พระสันตะปาปาเงา
เรื่องที่ 8 : ที่สุดของพระสันตะปาปา
(แหล่งข้อมูล : อุดมศานต์ มกราคม 2535, ธันวาคม 2538)
Back to home page |
| |
25 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย - วาติกัน
Back to home page |