Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
คำพยานของ อ.จางโบลี่หน้า 3

ปีนั้นวันคริสต์มาสผมตัดสินใจจะออกจากเมืองนี้และตั้งใจจะหนีข้ามกำแพงไปรัสเซีย เป้าหมายของผมคือไปอเมริกา ผมเลือกวันคริสต์มาสเพราะเป็นวันแห่งสันติสุขซึ่งมีความหมายสำหรับผมมากยิ่งกว่าเงินทอง การศึกษา เวลานั้นมีหมายประกาศจับผมอีก ผมรู้ว่าอยู่ต่อไม่ได้แล้วผมจึงหวนคิดการเดินทางที่ผ่านมาพระเจ้าได้ทรงคุ้มครองผมมาตลอด หลายครั้งผมต้องเผชิญหน้ากับตำรวจแต่ก็รอดมาได้ ครั้งหนึ่งบนรถไฟผมนั่งตรงข้ามกับตำรวจ 

ตอนนั้นผมและหนวดยาว พวกเจ้าหน้าที่จ้องดูผมแล้วพูดว่าหน้าคุ้นๆ ผมถามกลับว่าเหมือนใคร เขาบอกเหมือนนักศึกษาที่เราตามจับอยู่ ผมถามว่าแล้วจับได้ยัง เขาบอกยัง ผมว่าเขาไม่ได้เรื่องกินเปลืองข้าวสุกรัฐ พวกเขาโกรธมากบอกว่าพวกเราก็แค่เด็กมัธยมจะไปจับนักศึกษามหาวิทยาลัยได้อย่างไรคิดว่าง่ายๆหรือ นั่นซิ! บางทีเขานั่งตรงหน้าคุณๆยังไม่รู้เลย เหตุการณ์ตอนนั้นไม่รู้ผมมีความกล้าที่จะพูดโต้ตอบโดยไม่สั่นกลัวได้อย่างไร ผมเชื่อว่าปัญญานั้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงให้กำลังผม

พี่เขยถามผมว่าทำไมต้องหนีวันนี้ ผมว่ามันเป็นวันสันติสุขทั่วโลกกำลังร้องเพลงนี้และพระเยซูก็ทรงมองดูผมอยู่ พี่สาวสนับสนุนเธอบอกว่าจะอธิษฐานเผื่อผม เธอไม่สามารถช่วยผมได้แล้ว ขณะเตรียมอาหารแห้งให้ผมเธอร้องไห้ไปด้วยผมรู้สึกซึ้งใจมาก สุดท้ายเธอบอกผมว่าถ้ามีปัญหาอย่าลืมต้องอธิษฐานพระเจ้าจะทรงฟังและช่วย เวลาตี 3 ผมออกจากบ้านเป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นที่สุด 

ขณะที่พี่เขยมาส่งเขาย้ำผมอีกว่าอย่าลืมทำตามที่พี่สาวสั่งนะ ที่จริงผมลืมแล้วผมถามว่าคุณเชื่อด้วยหรือ ไม่หรอกถ้าคุณไม่มีวิธีอื่นก็ลองอธิษฐานดู พี่สาวคุณอธิษฐานได้ขลังเชียวนะ ก่อนเธอมาเป็นคริสเตียนขอหย่ากับผมทุกวันพอเชื่อพระเจ้าก็เลิกพูด เธอกลับบอกรักผมได้แปลกจริงๆ เวลาหมูหรือไก่ของเราหาย เธอก็อธิษฐานต่อมามันก็เดินกลับมาเอง นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้อธิษฐาน เป็นช่วงที่อันตรายถึงชีวิต ผมรู้ว่าพระเจ้าทรงจูงมือผมผ่านมา ทรงปิดตาตำรวจ ทรงปิดกระบอกปืน ทรงปกป้องชีวิตของผม ขอบคุณสรรเสริญพระเจ้า.

ม้วนที่ 2 ความรักจากพระบิดา

บ่อยครั้งที่เราเรียกพระเจ้าว่าพระบิดาแต่พระองค์อยู่ตรงหน้าเราๆ ก็ยังไม่รู้ ผมเริ่มหนีอีกครั้งบริเวณรอบๆกำแพงจะมีทหารจีนเดินยามอยู่และบนหอ
คอยก็มีทหารส่องกล้องตรวจตรา นอกจากนี้ยังมีแสงไฟสาดส่องไปมา หิมะสูงราว
 1 เมตร อุณหภูมิลบ 40 องศาเซลเซียส ถ้าถ่มน้ำลายลงจะเป็นน้ำแข็งก่อนถึงพื้น เหงื่อที่ออกมาจะเป็นเกล็ดหิมะในเวลาอันรวดเร็ว 

คนที่อยู่ในสภาพนี้ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลามิฉะนั้นจะแข็งตาย ผมรู้ว่าต้องรีบไป ผมพยายามจัดซื้อพวกนาฬิกาและบุหรี่มาโบโลเพื่อใช้แลกซื้อของในรัสเซีย ผมตั้งใจไปมอสโคผมคิดว่าพระเจ้าคงช่วยผมให้รอดดังใจ ถ้าทหารพบว่ามีคนลักลอบหนีเขาจะยิงหรือยิงพื้นน้ำแข็งให้ตกลงในทะเลน้ำแข็งตาย ทหารยามจะเดินเวร 2 ชั่วโมงต่อรอบ ผมตั้งใจจะรีบไปถึงกำแพงปีนข้ามไปสุดท้ายพบว่าแผนการณ์ที่คิดผิดพลาดหมด เพราะหิมะสูงมากจนยืนไม่ได้ต้องคลานและปีนไปตามก้อนน้ำแข็ง บางก้อนโต 2-3 เมตร 

ผมปีนกำแพงเกือบ 3 ชั่วโมง ทางด้านรัสเซียก็มีเวรยามเช่นเดียวกันและมีแสงไฟส่องไปมา ข้ามกำแพงมาได้เป็นเวลาตี 5 ผมคิดถึงคำว่า “เสรีภาพ” ครึ่งปีแล้วที่ผมไม่กล้าเรียกชื่อตัวเอง มันเป็นเวลาที่ได้เป็นตัวของตัวเองอีกครั้งผมจึงตะโกนเรียกชื่อตัวเอง จากนั้นรีบวางแผนเดินทางต่อ ผมพยายามหารอยเท้าคนเพื่อนำทางแต่ไม่พบมีแต่รอยเท้าสัตว์ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ผมนึกในใจว่าถ้าพระองค์ทรงเป็นทาง เป็นชีวิตจริง ต้องเปิดทางชีวิตให้ผมเดิน
 นาฬิกาบอกเวลา 3 โมงเย็นยังหาทางไม่พบคิดว่าหลงทางควรกลับไปบ้านพี่สาวแล้วเอาแผนที่รัสเซีย
มาศึกษาก่อนค่อยมาใหม่ แต่เมื่อหันกลับไปดูปรากฏว่ารอยเท้าถูกหิมะกลบหมดแล้ว 

ผมเริ่มกลัวและคิดว่าชีวิตคงจบที่นี่ เสื้อผ้าเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง ผมพยายามหากิ่งไม้มาจุดไฟแต่ลมแรงมากจุดไม่ได้จึงเริ่มมองหาบ้านที่พอจะหลบได้
 ประมาณ 4 โมงเย็นผมเห็นเงาคล้ายบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า รีบเข้าไปดูพบว่ามันเป็นกองฟางขนาดยักษ์ ผมจึงฟันฟางออกแล้วเข้าไปซุกในกองฟาง ลมหนาวพัดเข้ากระดูกจริงๆ พอหยุดเคลื่อนไหวเลือดในตัวพลอยหยุดด้วย ผมรู้ว่าลมหนาวฆ่าคนได้ ในเวลานั้นเองเหมือนในหนังไททานิค ผมสงบใจและคิดถึงคำของพี่สาว อธิษฐาน 

นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตที่เปลี่ยนชีวิตของผม ผมรู้ว่าถ้ายังมีทางอื่นหรือความช่วยเหลืออื่นเหลืออยู่บ้างก็คงไม่ต้องอธิษฐาน มีคนพูดว่าจุดสิ้นสุดของมนุษย์เป็นจุดเริ่มต้นของพระเจ้า ถ้ามีใครช่วยได้เราจะขอให้ช่วยมากกว่ามาหาพระเจ้า ในอเมริกาเมื่อมีปัญหาเราก็หาทนาย ไม่สบายหาหมอแต่ไม่อธิษฐาน 

ถ้าตอนนี้มีคนอยู่ข้างๆแม้จะเป็นตำรวจผมก็จะขอให้เขาจับไปเข้าคุกก็ได้หรือถ้าเจอทหารรัสเซียยิ่งดี แต่พระเจ้าทรงนำมาถึงทางตันซึ่งความรู้ไม่สามารถช่วยได้ ปัญญาความสามารถช่วยไม่ได้ เงินทองหรือเพื่อนก็หมดสิ้น มีแต่ความสิ้นหวัง ถ้าพระองค์มีจริงทำไมความไม่ยุติธรรมจึงเกิดขึ้น ทำไมผู้คนต้องล้มตายมากมายในเทียนอันเหมิน ทำไมผมไม่ตายเสียที่นั่น มันไม่ยุติธรรม ทำไมคนชั่วลอยนวลแต่คนชอบธรรมถูกฆ่า 

มันไม่ใช่คำอธิษฐานแต่เป็นการต่อสู้กับพระเจ้ายิ่งสู้ยิ่งรู้สึกร้อน ผมรู้ว่าผิดปกติถ้าหนาวมากๆ แล้วรู้สึกร้อนก็เป็นสัญญาณอันตรายของชีวิต ผมเริ่มอธิษฐาน “พระองค์เจ้าข้า... จากนั้นร้องไห้ ผมยอมให้พระเจ้าเป็นพระเจ้า ให้พระองค์ผู้ถูกตรึงบนกางเขนเป็นพระเจ้า วันนี้ผมไม่สามารถกำหนดตัวเองได้แล้ว ถ้าใครได้ร้องเรียกพระเจ้าจากวิญญาณของเขา เขาได้ลดตัวลงจากที่สูงสุดมายังที่ต่ำสุด ผมสำนึกว่าตัวเองเป็นคนบาปมากและเห็นแก่ตัว ผมสารภาพบาป มอบตัวเองกับพระเจ้าขอพระองค์คุ้มครองลูกสาวอายุ 18 เดือน ภรรยาและพ่อแม่ของผม ถ้าผมตายที่นี่คงไม่มีใครรู้ 

นอกจากบ้านพี่สาวแล้วไม่มีใครรู้และพี่สาวก็คงคิดว่าผมไปอเมริกาแล้ว การที่ผมรู้จักการอธิษฐานและสารภาพบาปเพราะคริสตจักรใต้ดินได้สอนผม ยิ่งอธิษฐานยิ่งมีกำลัง เวลานั้นมีแสงอันอบอุ่นส่องเข้ามาในใจผม ผมขอพระเจ้าทรงอภัยผมเหมือนโจรที่ถูกตรึงบนกางเขนนั้น ถ้าพระองค์ให้ผมผ่านวันนี้ไปได้ผมขอถวายชีวิตเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์ ที่จริงผมก็ไม่เข้าใจว่าการถวายเป็นเครื่องบูชาหมายถึงอะไร ผมไม่กล้าคิดไปถึงเดือนหน้าหรือปีน้าอีก

วันต่อมาผมตื่นขึ้นพบตัวเองอยู่ในอุ้มแขนของทหารรัสเซียตัวกำยำร่างใหญ่ ผมรู้ว่าพระเจ้าทรงช่วยผมแล้ว พวกเขามาขนหญ้า 2 เที่ยวถ้าเขาขนไม่หมดผมคงติดอยู่ที่นี่ พวกทหารเล่าว่าเขามาขนหญ้าเดือนละครั้ง เมื่อ 3 วันก่อนเราจะมาแต่หิมะตกหนักมาไม่ได้จึงมาเอาวันนี้ พวกเขาเริ่มค้นสัมภาระของผม เขาเอารูปครอบครัวผมมาดูกันแต่ผมหมดแรงแล้ว ผมรู้ว่าพระเจ้าทรงช่วยผมขอบคุณพระเจ้า ผมเชื่อโดยไม่มีใครเรียกให้กลับใจ ไม่ได้ไปงานฟื้นฟู 

แต่ผมพบพระเจ้าผู้ทรงเมตตาอุ้มผมออกมา ผมถูกส่งไปยังคุกของ เค.จี.บี.มันเป็นห้องที่อุ่นมาก ผมรู้ว่าเสรีภาพหมดลงอีกครั้งแต่ผมไม่กลัวเพราะผมมีเสรีภาพในวิญญาณแล้ว ทุกวันจะถูกสอบปากคำว่ามารัสเซียทำไม ผมบอกเป็นจาง โบ ลี่แต่ไม่มีใครเชื่อ เขาถามว่ารัฐบาลจีนส่งคุณมาทำไม 4 วันต่อมาพวกเขาก็รู้ว่าผมเป็นจาง โบ ลี่ตัวจริงและผมบอกว่าต้องการไปอเมริกา พวกทหารรักษาขาที่เลือดหยุดเดินของผมเป็นเวลา 4-5 ชั่วโมงจึงมีอาการดีขึ้น 

ทุกคืนผมจะอธิษฐานอย่างหวานชื่นกับพระเจ้าพระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานเช่น ผมไม่คุ้นกับอาหารของรัสเซียพระองค์ก็ส่งข้าวที่ผมคุ้นเคยมาให้แทน วันต่อมาเขาพาผมไปสูดอากาศที่บริเวณของสถานกักกันมีกำแพงสูงล้อมรอบ ผมคิดถึงอิสรภาพและขอพระเจ้าให้เขาส่งไปอเมริกา ต่อมาเขาให้ล่ามมาถามว่าถ้าคุณกลับประเทศจีนจะมีโทษอย่างไร ผมคงติดคุกเพราะเจอสามกระทงใหญ่ๆ 

ผมคิดถึงคนหนึ่งที่ประกาศว่ามนุษย์เราไม่สามารถเลือกเกิดหรือเลือกพ่อแม่ได้ แต่เลือกตัดสินใจเดินได้และคนนี้ก็ถูกฆ่าตาย ในที่สุดพวกทหารก็บอกว่ารัฐบาลตัดสินใจส่งคุณกลับประเทศจีน ผมคิดถึงพระเจ้าทำไมไม่ฟังคำอธิษฐานของผม ถ้าจะอยู่ประเทศจีนก็ไม่ต้องดิ้นรนหนีออกมาหนาวตายอย่างนี้ แต่ล่ามแอบบอกว่าคุณยังมีทางเพียงแต่คุณเขียนจดหมายให้ท่านกอร์บอชอปท่านจะช่วยคุณได้ 

ผมรู้สึกตื้นตันใจจนร้องไห้ ผมถามว่าทำไมคุณดีกับผม เขาบอกเห็นผมในเทียนอันเหมินทั้งหมดแล้วประทับใจจนต้องร้องไห้ด้วย ใจของเราช่างอัศจรรย์สัมพันธ์กันได้เช่นนี้ ผมเริ่มเอากระดาษออกมาร่างจดหมายถึงท่านประธานาธิบดี ขณะที่เขียนยังไม่เสร็จดี ผมอธิษฐานกับพระเจ้าขอให้ถ้อยคำนั้นเป็นที่ประทับใจท่าน แต่ผมไม่สามารถอธิษฐานติดต่อพระเจ้าได้และมีเสียงบอกว่า เราไม่ได้เป็นพระเจ้าของเจ้าหรือ แต่เจ้าให้กอร์บอชอปเป็นพระเจ้าของเจ้า 

ผมรู้ว่าต้องกลับใจขอพระเจ้าทรงอภัยและช่วยอย่าให้เขาส่งกลับประเทศจีนแต่ให้ส่ง
ไปอเมริกาหรือยุโรปก็ได้พระองค์เจ้าข้า ผมตัดสินใจฉีกจดหมายซึ่งเป็นสายป่านเส้นสุดท้ายที่มีอยู่ทิ้งไปเสีย พระเจ้าต้องการให้พึ่งกำลังของพระองค์ ผมเริ่มอดอาหารอธิษฐาน 3 วันพออดได้ 2 วันทำให้คิดถึงตอนที่อยู่เทียนอันเหมินเราอดหารประท้วง ไม่ค่อยรู้สึกหิวเพราะมีคนมากมีเรื่องต้องทำ แต่ที่นี่อยู่คนดียววันๆผ่านไปอย่างเชื่องช้า ผมขอพระเจ้าทรงเปลี่ยนคำสั่งและขอกำลัง 

พวกเจ้าหน้าที่เห็นผมอดอาหารจึงมาเตือนว่าจะอดอาหารประท้วงที่นี่ไม่ได้เดี๋ยวตายจะมีปัญหา ผมบอกไม่ได้ประท้วงแต่ผมอดอาหารวิงวอนพระเจ้า เขาบอกนั่นแหละเหมือนกัน ถ้าเช่นนั้นคุณก็ส่งผมไปอเมริกาซิ แต่เขาไม่สามารถบังคับผมได้ จึงคิดวิธีอื่นโดยส่งอาหารอย่างดีมีกับข้าว 4-5 อย่างมาวางตรงหน้า ที่แย่คือเจ้าซุปรสชาดแซปถ้วยนั้น ตอนเป็นนักศึกษาพวกเราต้องดั้งด้นเดินทางไปถึงปักกิ่งเพื่อทานอาหารนี้ กลับมาเพื่อนมาบอกว่าพวกเราถูกหลอกเพราะกุ๊กเป็นชาวจีนไม่ใช่รัสเซีย 

แต่นี่ผมอยู่ในรัสเซียมีอาหารจานโปรดจากกุ๊กรัสเซียแท้ๆมาวางตรงหน้าแต่กลับอดอาหารทานไม่ได้ ผมเริ่มต่อรองกับพระเจ้าว่าอด 2 วันก็คงพอ มันเป็นการยากที่จะบังคับใจตนเองได้ในขณะที่ถูกทิ้งให้อยู่ลำพังคนเดียว ผมตักน้ำแกงมาเพื่อจะชิมดูและอ้างว่าจะลองเอาไปทำเองมั่ง ทันใดนั้นพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงตรัสในใจว่า “พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ ผู้ที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง” ผมรู้สึกเกรงกลัววางช้อนทันที พระเจ้าทรงทอดพระเนตรดูผมอยู่ ขอพระองค์ทรงอภัย พระองค์ทราบว่าผมอ่อนแอขอให้กำลังด้วย 

รุ่งขึ้นล่ามมาบอกผมว่าประทับใจมากที่ผมไม่ยอมดื่มน้ำแกงช้อนนั้น ผมรู้ทันทีว่าทุกอิริยาบทของผมถูกบันทึกไว้และอยู่ในความควบคุมของเขาทั้งสิ้น ผมขอบคุณพระเจ้าที่ทรงบังคับใจผม ไม่เช่นนั้นผมคงแย่และทุกคนคงคิดว่าผมต้องทำอย่างนี้ในเทียนอันเหมินด้วย ขอบพระคุณพระเจ้าทุกสิ่งก็ร่วมมือกันเพื่อช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลดี สิ่งดีทุกอย่างล้วนมาจากพระเจ้าและไม่มีสักสิ่งที่อยู่นอกเหนือพระองค์

มกราคม ปี 1990 เขานำเสื้อผ้าชุดเก่ามาให้ผมเปลี่ยน เอาผ้ามาผูกตาผม พวกทหารพูดเป็นภาษารัสเซียว่า “ลาก่อน” ผมคิดว่ารัฐบาลคงเปลี่ยนใจส่งผมไปมอสโคต่อเครื่องไปอเมริกา พระเจ้าต้องฟังคำอธิษฐานของผม ผมลองยื่นมือออกจับรถดู ถ้าหลังคาเป็นเหล็กหมดแสดงว่าวิ่งไฮร์เวย์ไปสนามบิน ถ้าเป็นผ้าแสดงว่าเข้าชนบทกลับประเทศจีน พอมือสัมผัสรถเป็นผ้าใบ 

ขอบคุณพระเจ้าไม่ต้องเสียเวลาคิดหรือกังวลใจอีก ฝากชีวิตกับพระเจ้าก็แล้วกัน รถวิ่งไปประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นเวลา4 โมงเย็นเขาแก้ผ้าผูกตาออกที่นั่นเป็นลานหญ้ากว้างใหญ่ ผมรู้ว่ากลับมาประเทศจีนอีกครั้ง พวกทหารหยุดรถพักและถามว่าสำรวจดูว่ามีอะไรหล่นไหม ผมก้มลงหาแบ็ตเตอร์รี่ที่คงทำหล่น เวลานั้นผมได้สัมผัสแสงสว่างของพระเจ้า พระองค์ผู้ทรงช่วยชีวิตผมมาครั้งหนึ่งแล้วจะไม่ช่วยอีกหรือ เพราะพระองค์มีแผนการณ์ที่งดงามในชีวิตที่ผมยังไม่ทราบ 

ผมอธิษฐานขอกำลังอีกครั้งให้เข้มแข็ง หันมาอีกทีเห็นพวกทหารกระจายออกตีวงกว้างถือปืนเตรียมพร้อม ล่ามบอกให้ผมจิบเหล้าขาวก่อนแต่ผมไม่ดื่ม เขาเอากล้องส่องทางไกลมาส่องดูพร้อมกับอธิบายทิศทางให้เดินต่อไปเองโดยไม่ถูกทหารจับ ผมคิดว่าต้องมีการส่งตัวนักโทษแต่เขาบอกว่าไม่ได้รายงานให้รัฐบาลจีนทราบเพราะถ้าทำ
อย่างนั้นทางตะวันตกรู้จะไม่พอใจและงดให้การช่วยเหลือเรา แต่ถ้าส่งไปอเมริกาก็เป็นการทำลายความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีต่อจีน 

ขอบคุณพระเจ้าผมบอกเขาว่า 2 ปีเขาจับผมไม่ได้ พระเจ้าจะอยู่กับผมอีกผมมั่นใจแต่ทำไมต้องกลับประเทศจีนผมไม่ทราบ เชื่อว่าต้องเป็นแผนการณ์ของพระเจ้าแน่นอน เพราะผมทุกเส้นพระองค์ทรงนับไว้แล้ว ผมรีบวิ่งไปข้างหน้าแล้วหลบเข้าต้นไม้เป็นที่กำบังกลัวถูกยิงข้างหลัง ผมเดินไปราว 4-5 กิโลเอามีดฟันหญ้าไปตลอด พอหันมาดูเห็นว่าตัวเองเดินเป็นวงกลมจึงหยุดอธิษฐาน พระเจ้าทรงให้ความคิดว่าควรเดินกลับทางเก่า ผมเดินต่ออีก 2 วัน 2 คืน หิวก็กินขนมปัง กระหายก็เอาหิมะกินต่างน้ำยิ่งกินยิ่งกระหาย เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าต่างๆ ไม่กลัวเราต่างจ้องหน้ากันด้วยความหิว เมื่อกลับมาที่นี่ผมคิดถึงพี่สาวแต่ไม่รู้จะไปหาเธอได้ที่ไหน

ต่อมาผมพบชายคนหนึ่งนอนเมาหมดสติอยู่ข้างทางจึงปลุกเขาตื่นและตามเขาไปที่บ้าน เขาถามว่ามาทำอะไรที่นี่ ผมบอกมาขายนาฬิกาแล้วเอานาฬิกาให้ดู เราคุยกันคืนนั้น เขาเห็นท่าทางผมคงผิดสังเกตจึงแนะนำว่าให้เดินทางไปที่หวังซันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนี่นัก ที่นั่นเป็นป่าสามารถเข้าจับจองทำกินได้ ผมเดินทางไปที่นั่นและอยู่ที่นั่น 2 ปี 

ถ้าไม่มีพระเจ้าผมคงไม่สามารถรอดมาได้เป็นเพราะความรักของพระองค์ทรงนำมาตลอด ที่นี่มีบ้านร้างหลังหนึ่งผมปรับปรุงให้เป็นที่พออาศัยได้ เมื่ออาหารแห้งหมดก็คิดถึงตอนอยู่รัสเซียเขาไปจับปลาที่อาศัยในก้อนน้ำแข็งในหน้าหนาว ผมจึงออกไปและขนเอาก้อนน้ำแข็งมาเก็บและกินปลาเป็นอาหาร บางครั้งก็ล่าสัตว์ป่ากิน ผมเอาเศษหญ้ามาปูรองนอน ไม่นานก็เริ่มเป็นโรคผิวหนังตามง่ามมือ เท้าและที่อับต่างๆ มีอาการพุพอง ผมไม่กล้าไปโรงพยาบาลได้แต่อธิษฐาน ทุกวันผมต้องออกวิ่งให้เหนื่อยไหลจะได้กลับมานอนได้ 

ปีต่อมาพี่สาวมาหาผมเอายาและพระคัมภีร์มาให้อ่าน ผมเริ่มใช้เวลาตัดต้นไม้มาสร้างบ้าน 2 หลัง หวังว่าวันหนึ่งภรรยาและลูกจะได้มาอยู่ด้วยกัน ผมนับดูลูกสาวคงอายุ 4 ปี พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้างผมไม่ทราบ เมื่อใดที่คิดถึงก็ต้องอธิษฐานเผื่อ บางครั้งผมจับปลาไปขายที่ตลาดในเมือง ไม่นานมีเพื่อนบ้านมาใหม่เขารับจ้างถางที่ ผมได้จุดไฟจับจองที่ได้ผืนใหญ่เขามาถามว่าจะถางที่ไหม ผมก็ตกลงเพื่อจะเพาะปลูกพืชผลได้และเริ่มปลูกถั่วและน้ำเต้า ผมและหนวดเคราของผมยาวมากจนใครก็จำไม่ได้ เวลาออกจากบ้านผมจะปิดประตูอย่างดี แต่ทุกครั้งก็พบว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาช่วยใช้และทำเลอะเทอะ 

ผมตัดสินใจเปิดบ้านเพื่อให้คนเดินทางที่เดือดร้อนมาพักได้และติดหนังสือ
เป็นการเชิญให้ใช้และช่วยรักษาด้วย ปรากฏว่าได้ผล มีคนมาใช้บริการและบางครั้งมีคนเอาของกำนัลมาฝากด้วย จนเป็นที่รู้กันว่าบ้านนายหวังใครก็เข้าได้ ทุกครั้งที่ไปขายปลาจะมีตำรวจมาขอปลาโดยไม่จ่ายเงินซึ่งผมก็ไม่กล้า
ทวงเงินกับเขาซักที วันหนึ่งผมคิดว่าอยู่มา 2 ปียังไม่ได้ชิมเหล้าและปลาท่องโก๋เลย 

<BACK NEXT>

GUEST BOOK / WEB BOARD / SHARE&CARE / KIDS CENTER / FAMILY / COMPOSITION / PRAY CENTER / BIBLE STUDY /ARTICLES /  MALL CENTER / NEWS / PICTURES / CONTACT US / WEB LINKS /HOME /PRAISE&WORSHIP