Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
 

    THAI  CHRISTIAN  CENTER



 คำพยานของ ฮ.จางโบลี่หน้า 2

ปลายปี 1989 ผมมาถึงเมืองเองเจียง ในหมู่บ้านเล็กๆซึ่งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศจีน ที่นั่นมีคนอยู่เพียง 20 กว่าหลังคาเรือน หญิงชาวนาคนหนึ่งได้เปิดประตูต้อนรับผมให้เข้ามาพักอาศัยในบ้านของเขา ผมไม่เคยรู้สึกอบอุ่นมากเท่านี้มาก่อน หญิงเจ้าของบ้านเป็นคุณย่าแล้วต่อมาผมเรียกเธอว่าพี่สาว ผมไม่กล้าโกหกเธออีก ผมถามเขาว่ารู้ไหมผมเป็นใคร เธอบอกว่ารู้เราเห็นคุณในทีวี.. และรู้มัยถ้าเปิดบ้านรับผมไว้จะเป็นอันตรายมาก ผมเห็นเธอไม่รู้สึกตื่นเต้นผิดกับเพื่อนผมที่ตื่นกลัวมาก ผมคิดไปว่าคนที่ไม่การศึกษาก็ดีไปอย่างไม่ต้องรู้สึกกลัวไม่คิดมาก ผมเตือนเธอว่าถ้าเธอถูกจับอาจติดคุก ถ้าโทษผมหนักต้องติดคุกถึง 50 ปี เธอกลับตอบว่าไม่เป็นไร ติดคุกตลอดชีวิตก็เป็นพยานเพื่อพระเจ้าได้ ฟังแปลกๆ เธอยังพูดว่านักศึกษาอย่างผมถ้าไม่ถูกตามจับคงไม่มาที่บ้านนี้แน่นอน นี่ต้องเป็นเพราะพระเจ้าทรงนำมา ทุกสิ่งก็ได้ร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ต่อคนที่รักพระองค์ คุณก็มาแล้วอยู่ที่นี่ไม่ต้องกังวลใจ พี่สาวจะอธิษฐานเผื่อคุณรับรองตำรวจหาคุณไม่พบแน่ 

เธออธิษฐานเผื่อผมทุกวันไม่เพียงเท่านั้นยังพยายามสุดกำลังที่จะทำอาหารที่ดีที่สุดที่มีในบ้านให้ผมทานทุกวัน ที่จริงอาหารที่ดีที่สุดก็เป็นเพียงแป้งข้าวเจ้าที่นำมาบดรวมกับโสม แต่ว่าร่างกายของผมบอบช้ำมามากจึงไม่ดีขึ้น เธอจึงขอยืมแป้งหมี่จากเพื่อนบ้านมาทำซุปให้ผมโดยเฉพาะ ผมจึงเป็นคนเดียวในบ้านที่ทานอาหารดีที่สุด เรื่องนี้ทำให้ผมไม่สบายใจ เมื่ออยู่ที่เทียนอันเหมินผมคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดเพราะพวกข้าราชการเหล่านั้นโกงกินประชาชน พวกเขาอยู่อย่างราชา อาหารที่เขาทานแต่ละมื้อเท่ากับชาวนาอยู่กินได้ชั่วชีวิต เหล้าที่พวกเขาดื่มราคาเป็นหมื่นหยวน พวกเขาโกงกินเกินกว่า 60 ล้าน เมื่อเราอยู่ในบ้านหลังใหญ่เราจะดูถูกชาวนาได้อย่างไร แต่ผมเห็นว่าเธอไม่รู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำนี้เลย เธอมักปลอบใจผมว่าไม่ต้องคิดมากเมื่อคุณหายดีแล้วเราค่อยมาทานเหมือนกัน แต่ผมรับไม่ได้ถ้าเราอยู่ในประเทศเดียวกันก็ไม่ควรมีชีวิตที่ต่างกันมากขนาดนี้ ต่อมาเธอเห็นว่าสุขภาพผมยังไม่ดีขึ้นเลย เธอจึงจัดการฆ่าแม่ไก่ทำซุปให้ผม ไก่นับเป็นสัตว์เศรษฐกิจของชาวนา เพราะเขาจะเอาไข่ไปแลกซื้อสินค้าในเมือง เช่นเกลือ ไม้ขีดไฟ อื่นๆ เมื่อผมทานไก่ตุ๋นทำให้คิดถึงคำพูดท่านเมาว่า “โลกนี้ไม่มีรักที่ปราศจากการตอบแทน” ผมชักใจไม่ดีคิดว่าทำไมหญิงคนนี้แสดงความรักมากเช่นนี้ต่อผม ทุกครั้งที่ดื่มซุปไก่อดคิดไม่ได้ว่าผมเป็นหนี้บุญคุณเธอนับวันจะเพิ่มขึ้นทุกที แล้วจะตอบแทนเธอได้อย่างไรหรือบางทีเธออาจดีดลูกคิดในใจว่าวันหนึ่งผมจะกลับมาได้อีก 

แต่นั่นแหละเวลานั้นมันเมื่อไรกัน เธออาจจะแก่ตายก่อนหรือผมคงต้องตอบแทนคุณนี้ให้ลูกสาวเธอก็ได้ ต่อมาผมรู้ว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้นเมื่อร่างกายของผมเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ วันหนึ่งเธอบอกผมว่าคุณช่วยอ่านหนังสือให้พี่สาวฟังหน่อยได้ไหม เมื่อวานเพิ่งส่งมาถึงบ้านของเรา หนังสือที่เธอว่านั้นเป็นหนังสือที่เขียนขึ้นด้วยลายมือชื่อ “พระธรรมยอห์น” เป็นพระคัมภีร์ของคริสเตียน ผมรู้จักพวกหนังสือกิตติคุณมี 4 เล่ม ขณะที่อ่านผมรู้สึกประทับใจคำว่า ความเชื่อ” 

ในวัยเด็กผมเชื่อแบบคอมมูนนิสย์ ทุกคนมีความเสมอภาคเท่ากันหมด เราไม่เคยรู้ว่ามีความบาป พระธรรม 66 เล่มนี้ถูกคัดลอกด้วยลายมือและแบ่งเวียนกันอ่าน 64 ครอบครัว เมื่อครบแล้วเล่มต่อไปจะถูกส่งมา เราจะอ่านอาทิตย์ละครั้ง ในยอห์น 1:1 กล่าวถึงพระวาทะหรือธรรมะ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนจีนเข้าใจกันดี เราพูดถึงธรรมะกันบ่อยเต๋าก็คือธรรมะ แต่คริสเตียนกล่าวว่าธรรมะมาบังเกิดเป็นมนุษย์คือพระเยซู พระองค์ทรงสร้างโลกและทรงช่วยโลกให้รอด ผมรู้สึกว่าพระคัมภีร์เขียนอ่านง่ายๆและชัดเจน ไม่ต้องมีการศึกษาก็อ่านเข้าใจได้ ผิดกับหนังสือของพวกนักวิชาการที่เราเคยเรียนบางเล่มอ่านกี่รอบก็ไม่เข้าใจ ครูผู้สอนก็ไม่เข้าใจ แม้แต่ผู้เขียนเองก็เขียนจากความไม่รู้แท้จริง 

เขาบอกว่าถ้าทุกคนมีคำตอบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเขียนหนังสืออีก แต่ในพระเจ้ามีคำตอบสำหรับทุกสิ่ง ผมได้คำตอบว่าโลกนี้พระเจ้าสร้าง พระเยซูมาเพื่อความบาปของเรา ทุกครั้งที่อ่านเสร็จผมจะได้ดื่มซุป เมื่อเราอ่านได้ระยะหนึ่ง เธอบอกให้เรามาแบ่งปันกันคงเหมือนกับการเรียนที่อาจารย์ให้เรามาถกปัญหากัน แต่เธอบอกไม่ใช่พระคำของพระเจ้าถกปัญหาไม่ได้แต่ต้องแบ่งปันความคิดให้กัน เราคุยกันถึงพระธรรม 2 ตอนคือเรื่อง “หญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำ” ในบทที่ 4 และ “หญิงที่ถูกจับฐานล่วงประเวณี” ในบทที่ 8 เธอให้ผมพูดก่อนว่าจากชีวิตหญิง 2 คนนี้ผมเห็นอะไรบ้าง ผมเห็นว่าพระเยซูทรงเป็นน้ำพุเข้ามาในความคิดของหญิงชาวสะมาเรีย ทรงถ่ายทอดความคิดนี้ให้เธอ เธอถามว่าทำไมหญิงคนนี้ถึงมีสามี 5 คน ผมบอกก็คงหย่า 5 ครั้ง แล้วคุณคิดว่าการหย่า 5 ครั้งในสมัยสองพันปีที่แล้วเป็นเรื่องปกติงั้นหรือแสดงว่าหญิงคนนี้เป็นคนไม่สะอาดเป็นคนชั่ว
และยังเป็นชาวสะมาเรียที่พวกยิวรังเกียจด้วย แต่ทำไมพระเยซูจึงไปหาคนบาปชั่วและมอบความรักให้เธอ ผมพบว่าการรู้จักพระคัมภีร์ไม่ได้อยู่ที่การศึกษา 

ผมไม่สามารถอ่านพบความลึกซึ้งของพระธรรมเท่าหญิงชาวบ้านคนนี้ ส่วนบทที่ 8:2-11 นั้นเธอถามว่าควรทำโทษอย่างไรดี ก็ให้เอาหินขว้างตายเพราะเธอผิดจริง เธอบอกถ้างั้นคุณก็ทำผิดต่อกฎหมายโรมเพราะคุณฆ่าคนตายถ้าปล่อยก็ผิดกฏของโมเสส เรื่องนี้ผมคิดว่าตัดสินยากต้องอาศัยปัญญา พระเยซูทรงก้มลงเอานิ้วพระหัตถ์เขียนที่ดินแล้วตรัสอย่างแผ่วเบาว่า “ใครในพวกท่านที่ไม่เคยทำผิดบาปให้เอาหินขว้างก่อน” ปรากฏว่าคนเริ่มทยอยออกไปหมดตั้งแต่คนชราถึงเด็ก พระองค์ก็ไม่เอาผิด แต่ขอให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่าทำบาปอีก ทุกวันนี้เราเห็นคนบาปตัดสินคนบาปแม้แต่ในศาล พระคัมภีร์บอกว่ามนุษย์ทุกคนเป็นคนบาปและเสื่อมไปจากพระสิริของพระเจ้า ความรักของพระเจ้าเท่านั้นที่ให้คำตอบแก่หญิงนี้ได้ คำตอบนี้ทำให้ผมดีใจมากผมเริ่มคิดว่าตัวเองเป็นคนบาป ในวันที่มีการนองเลือดนั้นเลือดทุกๆ หยดที่หลั่งออกมามีความสัมพันธ์ต่อผม ผมไม่ได้เป็นคนดี ผมผิดต่อคนในครอบครัว เป็นลูกที่ไม่ได้เชื่อฟัง ไม่ได้เป็นสามีที่ดีหรือพ่อที่ดี แต่ความรักของพระเยซูมาถึงหญิงคนนี้ได้ ผมจึงถามว่าแล้วความรักของพระเจ้าจะมาถึงผมได้ไหม เธอตอบแน่นอนเพราะขนาดหญิงคนนี้เป็นคนบาปมากพระเจ้ายังช่วยได้ ผมเริ่มสนใจและอ่านเองโดยไม่ต้องให้ใครเชิญอีกและได้พบแสงสว่างมาก

การประชุมกลุ่มตามบ้านในประเทศจีนไม่เหมือนกับในประเทศโลกเสรีที่กำหนดตายตัว แต่เขาจะประชุมกันในช่วงฤดูเกี่ยวแล้วและจะประชุมทุกวันเวียนตามบ้านและทำอย่างหลบๆซ่อนๆ เวลาประชุมผมต้องไปหลบในหลุมที่เขาเอาไว้เก็บพืชผลเพื่อใช้ในฤดูหนาว ที่นั่นมีกลิ่นอับและมีตัวแมลงมาคอยกัดตลอดเวลา ผมถามพี่สาวว่าทำไมไม่เลื่อนไปที่อื่น เธอบอกไม่ได้เพราะจะผิดสังเกต เวลานี้ผมก็ยังไม่สามารถให้ใครเห็นได้มากๆจะเป็นอันตราย การประชุมแต่ละครั้งจะยาวมากบางครั้งร้องเพลงนมัสการถึง 4 โมงเย็นร้องกันแบบผิดๆถูกๆไปตามเรื่องตามราว บางเพลงเป็นทำนองพื้นบ้านที่ร้องเป็นเรื่องเล่าตั้งแต่เดือน 1 ถีง เดือน 12 

บรรยายว่าเขามารู้จักพระเจ้าได้อย่างไร เขาร้องว่า..พอถึงเดือน 12 ก็เข้าคุกแล้วพบพระเจ้าเพราะมีคนประกาศกิตติคุณในคุก ผมจึงรู้ว่าในคุกมีพวกคริสเตียนมากมาย พวกเขาเข้าไปเป็นเกลือและแสงสว่างแก่คนคุก ดังนั้นคริสเตียนจึงไม่กลัวติดคุกเพราะเขาได้ประกาศเรื่องพระเยซูในคุกด้วย วันหนึ่งเขาร้องเพลงบทหนึ่งเป็นเพลงง่ายๆ ไม่มีดนตรี ร้องผิดโน๊ตผิดจังหวะจนผมขัดใจอยากออกมาบอกว่าร้องผิดแต่ทำไม่ได้ ในที่สุดผมคิดว่าการที่เราจะสรรเสริญพระเจ้าออกมาจากใจเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก เสียงเพลงนั้นประทับใจและหนุนใจผมเป็นอย่างมาก.

ผมทุกเส้นของคุณพระเจ้านับแล้ว    ภาระหนักของคุณพระองค์แบกแทน
อย่ากังวลร้อนใจในอนาคตนั้นอีก     มีสันติสุขในพระเจ้า

ผมมารู้ภายหลังว่าเพลงนี้เป็นเพลงเก่ากว่า 60 ปีแล้ว ขณะที่ฟังผมเริ่มร้องไห้ ผมคิดว่าการที่ชีวิตต้องผ่านความทุกข์มามากมายคงต้องมีน้ำพระทัยหรือแผนการณ์อันดีของพระเจ้าแน่นอน และต้องมีความหมายซึ่งผมยังไม่รู้ในเวลานี้ ผมจำได้ว่าเมื่อตอนที่จากมาลูกสาวอายุเพียง 18 เดือน เวลานี้พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ภรรยา พ่อแม่ของผมแม้แต่ตัวผมเองจะเป็นอย่างต่อไปก็หารู้ได้ ภาระอันหนักนี้ผมไม่สามารถแบกได้อีกต่อไป ผมต้องมอบให้กับพระเจ้าเพราะพระองค์ทรงเป็นเจ้าของอนาคตของผม ต่อมาผมเริ่มชอบการประชุมนี้แม้แต่กลิ่นและตัวแมลงก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการประชุม ผมได้ฟังพระธรรมหลายตอนไม่ว่าจะเป็นฮีบรู พงษ์กษัตริย์ ผมรู้สึกตัวเองเหมือนเอลียาห์ที่มาอยู่ในบ้านของหญิงหม้ายผู้ยากจน มีอีกาคาบอาหารมาเลี้ยง


<BACK     NEXT>

GUEST BOOK / WEB BOARD / SHARE&CARE / KIDS CENTER / FAMILY / COMPOSITION / PRAY CENTER / BIBLE STUDY /ARTICLES /  MALL CENTER / NEWS / PICTURES / CONTACT US / WEB LINKS /HOME /PRAISE&WORSHIP