Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!

ต่อ

" กรุณาอย่ารบกวนการทำงานของผมเลยครับ หัวหน้า " ผมกำลังขอร้องผู้ชายตรงหน้าผมให้เดินออกไป เขายืนขวางผมอยู่

ผมไม่อยากคุยกับเขา


" ฉันอนุญาตให้เธอพักซัก 10 นาทีก็ได้นี่นา สีหน้าเธอไม่ดีเลย ซีเรีย "


" ไม่เป็นไรครับ ผมทำงานต่อได้ "


" ใครๆก็อยากพักทั้งนั้น เธอขยันขันแข็งออกแบบนี้ พอเธอป่วยฉันก็อยากจะให้ได้พักบ้าง ไปที่ออฟฟิศกันเถอะนะ"

ผมยังไม่ได้พูดอะไรเขาก็จับข้อมือผม พยายามจะลากไปตามทางเดิน ผมไม่โง่หรอกนะ แน่นอนว่าผมสะบัดข้อมือออก

สีหน้าของผมคงดูไม่ดีนัก คงดูเหมือนพวกที่หยาบกระด้างกระมัง แต่ที่แน่ๆคงไม่ใช่พวกเจนโลกแน่

คนพวกนี้มีกันเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองนั่นล่ะ พวกเขาพยายามเอาเปรียบเรา คิดว่าเราเป็นเหมือนกับสัตว์ ไม่มีชีวิตจิตใจ


" ขอโทษ แต่ผมเป็นลูกจ้าง ผมควรจะทำงานให้คุ้มเงินมากกว่าจะพักสบายๆใช่มั้ยล่ะครับ "


" .......เพิ่มค่าจ้างเป็นไง "


" ...!......" คนๆนี้กำลังจะพูดเรื่องอะไรนี่ เขาจะเอาเงินมาล่อผม


" แค่ 43 ฟิลมันถูกเกินไปสำหรับแรงงานชั้นดีอย่างเธอ เพราะเลือดของมนุษย์ทำให้เธอต้องยากจนใช่มั้ย ฉันจะเพิ่มให้ ซัก 50 ไม่ส

ิ ถ้าเธอทำตัวดีๆฉันจะให้ถึง 100 ฟิลเลยก็ได้ " 100ฟิล เป็นเงินที่ค่อนข้างสูงทีเดียว .........ในฝัน อีกแล้ว ผมเห็นตัวเองมีเงินมากมาย

มากพอที่จะแจกจ่ายให้ใครต่อใครได้สบาย แต่ตัวผม ไม่รู้สึกเลยว่านั่นเป็นความสุข ...แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมา การไม่มีเงิน

ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นความสุขเช่นกัน


" กรุณาเลิกยุ่งกับผมเถอะครับ ผมไม่เคยคิดจะเรียกร้องเงินเพิ่มจากคุณหรอก ผมยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของรัฐบาล "


" พูดเป็นเล่น เธอยากจนไม่ใช่เรอะ เธอต้องการเงิน เป็นแค่มนุษย์ไร้การศึกษา เป็นพวกลักลอบเข้าเมือง ไม่มีแม้แต่วีซ่า

เป็นแค่พลเมืองระดับ3เกรดต่ำ มากับฉัน "


" ปล่อยผม " หัวหน้ากระชากผมตามเขาไป มันง่ายมากที่คนร่างกายใหญ่โตอย่างเขาจะทำแบบนี้ แน่นอนว่าผมพยายามดิ้นรน

แต่เขาก็กึ่งกระชากกึ่งลากผมออกไปตามทางเดิน นี่เป็นทางที่จะไปออฟฟิศของเขา


" อย่าทำแบบนี้นะ มันไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเลย "


" ไม่มีใครสนหรอกว่าคนงานต่ำๆจะหายไปซักคน คงจะรู้สินะว่าไม่มีตำรวจหรือศาลที่ไหนจะมารับฟังคำพูดของสวะสังคม "


" ผมไม่ใช่สวะ การกระทำแบบนี้ต่างหากที่ควรจะเรียกว่าสวะ ปล่อยผมนะ"


" อยู่ด้วยกันซักครึ่งชั่วโมงก่อนแล้วฉันจะปล่อยเธอกลับไปครบ 32 แน่ "


" คุณคิดจะฆ่าผมมากกว่า คุณบอกเองไม่ใช่เรอะว่า คนอย่างพวกผมหายไปซักคนสองคนก็ไม่เป็นไรน่ะ "

ทันทีที่เปิดประตูออฟฟิศเข้าไป เขาจะเหวี่ยงผมลงไปกองกับพื้น และกดตัวผมไว้ อึดอัด


" ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก เธอออกจะเป็นคนสวยหายากออกขนาดนี้ เป็นสัตว์ป่าสงวนที่สมควรอนุรักษ์ทีเดียวนะ คิดดูสิ

เธอมีโอกาสดีทีเดียวนะ เป็นสัตว์เลี้ยงของฉันได้เลย ฉันไม่เบื่อเธอง่ายๆหรอก "


" อย่านะ! ขยะแขยง " ผมอยากจะร้องขอความช่วยเหลืออยู่หรอก แต่ก็รู้ว่ามันคงจะเปล่าประโยชน์ ไม่มีใครช่วยได้เลย

และถึงมีคนได้ยินก็คงไม่สนใจจะช่วย ไม่มีใครอยากหาเรื่องใส่ตนเองหรอก.....มือคู่นี้ มือที่สัมผัสตัวผมอยู่น่ารังเกียจ

ริมฝีปากที่อยู่บนใบหน้าผมช่างอัปลักษณ์ ขยะแขยงสิ้นดี ..ความฝัน ผมฝัน เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้น ที่ไหนซักแห่ง ปีไหน เดือนไหน

วันไหน ใครน่ะ คนที่ทำลายชีวิต คนที่ฆ่าผม ผมกรีดร้องออกมา เป็นเพราะฝัน ฝันนั่นตามมาหลอกหลอนผม อันไหนจริง สิ่งไหนปลอม

ช่วยด้วย กิล พาฉันออกไปที นี่เป็นฝันร้ายเท่านั้น ฉันถูกยิง ฉัน.....


………เสียงปืน มาจากไหน ในฝันเรอะ ไม่ใช่ มันดังเกินไป


" พาตัวไป ระวังๆล่ะ " เสียงฝีเท้าคน หลายคน ตัวผมถูกใครบางคนอุ้มขึ้น ..มีกลิ่นคาวเลือด คุ้นเคยเหลือเกิน กลิ่นเลือด


" เหมือนในรูปเปี๊ยบเลยนะครับ ราวกับ...ปีศาจกลับมาเกิดใหม่ " เป็นอีกเสียงหนึ่ง ใคร ปีศาจ กิล..นายอยู่ไหน


" ความหวัง….. ความหวังต่างหากที่กลับมา " คนหนึ่งพูด

.............................

" ทำไมไม่เปิดไฟ ซีเรีย " ในบ้านมืดสนิท ซีเรียควรจะเลิกงานก่อนผมนานแล้ว ปกติเขาจะตรงกลับบ้านทันที นี่เขาไปไหน

กลิ่นบุหรี่...ทำไมมีกลิ่นบุหรี่ที่นี่


" ช่วยไปกับเราหน่อยได้มั้ย คุณ กิลเลี่ยน ซัลดาเลีย "


" ก่อนจะพูดจาอะไรกัน อย่าเอาปืนมาจ่อขมับคนอื่น สุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้สิ " พวกนี้เป็นใคร ลักษณะคล้ายทหารนอกเครื่องแบบ

แต่อาวุธครบมือ พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด อย่างน้อย...เราก็อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมาตลอดแท้ๆ


" อย่าต่อรองดีกว่า คุณไม่มีทางเลือกมากนักหรอก "


" ลดอาวุธ " คนที่ดูเป็นหัวหน้าสั่ง ท่าทางจะพอพูดกันรู้เรื่อง


" ซีเรีย หมอนั่นอยู่กับพวกนายใช่ไหม "


" ถูกแล้ว ดังนั้นเราจึงคิดว่าคุณจะกรุณาไปกับเราโดยดี "


" นี่มันเรื่องอะไรกัน อธิบายได้ไหม " ผมค่อนข้างจะไม่สบอารมณ์นัก มีบางอย่างแปลกๆ คนพวกนี้ค่อนข้างแปลก

พวกนี้น่าจะรู้ว่าเราเป็นมนุษย์โลก แต่กลับดูสุภาพกับเราจนเกินเหตุ ซีเรียล่ะ ปลอดภัยใช่มั้ย


" คุณไปกับเรา และคุณจะเข้าใจทุกอย่าง คิดว่า..คุณคงจะยังหลงเหลือความฉลาดหลักแหลมอยู่บ้างกระมัง"


" ก็ได้ ผมจะตามพวกคุณไป "


กรมทหาร ทำไมถึงต้องพามาที่นี่ ผมเดินตามเข้าไปจนถึงด้านใน ลักษณะที่นี่อึดอัดยังกับคุก เราเดินไปจนถึงใต้ดินล่ะมั้ง

ไม่ใช่แค่เหมือนคุก แต่ชักรู้สึกว่าเป็นคุกจริงๆซะแล้วสิ


" ซีเรียอยู่ที่ไหน "


" ในห้องนั้น เขาพูดไม่รู้เรื่องแบบนั้นบ่อยรึเปล่า ต่างจากคุณนะ ดูจากข้อมูลคุณค่อนข้างเหมือนเดิม แต่เขา

ดูอุปนิสัยจะเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก " ชายร่างสูงในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงิน ติดอาร์มสีแดง

ท่าทางเป็นหัวหน้าพูดขึ้นอีกก่อนที่จะเปิดประตูห้องให้ผมเข้าไป


" ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดเลย ข้อมูล ใครกันที่เหมือนเดิม ผมกับซีเรียไปเหมือนใครบางคนที่พวกคุณต้องการตัวเข้ารึไง

พวกคุณน่าจะมีข้อมูลดีๆเยอะนี่ ยังไงผมกับซีเรียก็ไม่ใช่ผู้ร้ายที่ยิ่งใหญ่ขนาดทหารจะออกมาจับกุมหรอก "


" จำไม่ได้เลยสินะ ทางเราเองก็ไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ ...คุณรู้จักตำนานของความหวังไหม "


" ตำนานของความหวัง?...คนไร้การศึกษาอย่างผมไม่รู้หรอก "


" ผมจะบอกใบ้ ผมอยากพบคุณ และก็เขาด้วย ชื่อเดิมของพวกคุณไง รูซินอฟ เทรเซอร์ กับ กราเซีย ฟีรูฟ สองคนในกลุ่มกบฏทั้ง 12

ผมบอกได้แค่นั้นล่ะ เพื่อน ไม่สิ คนรักของคุณรออยู่ มิสเตอร์เทรเซอร์ "


" ...........ซีเรียเป็นเพื่อนผม "


" คุณยังจำไม่ได้จริงๆนั่นล่ะ งั้นก็คงเปล่าประโยชน์ที่จะถามคุณเรื่องอื่นๆ "


ผมเดินเข้าไปในห้อง ประตูปิดลง มีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจ นี่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกัน ร่างของ


ซีเรียอยู่ตรงหน้า เขานั่งอยู่บนเตียงพยาบาล ดวงตาค่อนข้างเหม่อลอย


" ซีเรีย ฉันกิล " ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆเขา กุมมือของเขาไว้แน่น มือของซีเรียเย็น เย็นมาก ใบหน้าที่ปกติซีดอยู่แล้วของเขา

กลับยิ่งดูไร้เลือดมากยิ่งขึ้น เขาหันมามองผมก่อนที่จะเอนตัวลงพิงไหล่ผม ท่าทางเขาอิดโรยมาก


" ฉันฝัน ฝันกลางวัน ตอนที่ผู้ชายคนนั้นพยายามลวนลามฉัน ผู้ชายอีกคน ในความฝัน ฉันรู้จักเขา เขาทำแบบนั้น แบบเดียวกัน "


" ใคร ใครทำอะไรนาย " ผมกอดเขาไว้ก่อนที่จะถามอะไรต่อไป ตัวของซีเรียเย็นเฉียบ มีอาการสั่นราวกับหวาดกลัวอะไรบางอย่าง


" เขาตายแล้ว คนพวกนั้นฆ่าหัวหน้า ฉันได้กลิ่นเลือด เสียงปืน "


" ซีเรีย นายปลอดภัยแล้วนะ ฉันอยู่นี่ อยู่ข้างๆนายนะ "


" อืม........ "
ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ผลอยหลับไป ซีเรียกำลังรู้สึกปลอดภัยเพราะผมอยู่ที่นี่ แน่อยู่แล้ว เราอยู่ด้วยกันมานาน ตั้งแต่จำความได้

พ่อกับแม่รับซีเรียมาอุปการะ เราอยู่ด้วยกันตลอด เราแทบจะมองใบหน้าของกันและกันแทนกระจก สำคัญกว่าน้ำหรืออาหาร

บางทีอดจะรู้สึกไม่ได้ เราอาจจะเคยรู้จักกันมาก่อนที่จะเกิดก็ได้ ที่ไหน เมื่อไหร่

ทำไมคนเราถึงรู้สึกหวงแหนและเป็นกังวลกับใครบางคนได้มากขนาดนี้นะ ถ้าเรื่องของชาติภพมีจริง

เราสองคนอาจจะเคยพบกันมาก่อนจริงๆก็ได้ เป็นใครบางคน เป็นไปได้ไหม ที่เราจะรู้สึกเช่นนี้ ปรารถนาจะพบคนคนนี้

อดีตชาติ......รูซินอฟ เทรเซอร์ กับ กราเซีย ฟีรูฟ ใครกันนะ ไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหู แต่ก็ไม่ได้ดูห่างไกล ตำนานของความหวัง.....ความหวัง

มันตายไปตั้งแต่การมาของพวกมนุษย์ต่างดาวซะแล้วล่ะ ตายไปก่อนที่พวกเราจะเกิด! เกิด

.................................

กลับหน้าสารบัญ

กลับหน้าเดิม

ไปต่อ